วันเสาร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2558

[YangFeng Fan-fiction] คุณชายหยางหยาง VS อาจารย์อี้เฟิง - 02

คุณชายหยางหยาง VS อาจารย์อี้เฟิง - 02


Pairing : YangFeng 


Note : ตอนแรก < จิ้ม 






เนื้อหาเกี่ยวกับ ชาย X ชาย นะคะ ถ้าไม่ชอบแนะนำให้กดออกไปเลยค่ะ 



**********




เจ้าของใบหน้าหวานได้ยินดังนั้นก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา นัยน์ตากลมโตจะตวัดไปมองคนที่อายุน้อยกว่าตน ก่อนที่จะเดินไปนั่งยองๆตรงหน้าเจ้าของใบหน้าหล่อที่ถูกถีบจนลงไปนั่งกองกับพื้น


“ทำไม..เป็นฉันทำแล้วทำห๊ะ? รู้หรือเปล่า ว่าคนหน้าตาอย่างหลี่อี้เฟิงคนนี้เนี่ยแหละ ที่ทำให้เทพเจ้าแห่งความงามต้องลงมาคุกเข่าอ้อนวอนขอชีวิตเลยนะ!” ไม่รู้ว่าอี้เฟิงคิดไปเองหรือเปล่า แต่ทันทีที่พูดจบก็เห็นสีหน้าของคนฟังดูช็อคไปนิดๆ ก่อนที่จะหลุดขำออกมา


“พี่มั่นใจนะครับ ว่าเมื่อเช้าไม่ได้กินอะไรแปลกๆเข้าไป โอ้ย ฮะๆ”  หยางหยางถามพร้อมกับเสียงหัวเราะที่ดูเหมือนเจ้าตัวจะขำมาก และมีท่าทางว่าจะไม่หยุดขำง่ายๆ จนเจ้าของใบหน้าหวานเริ่มจะหน้าแดงด้วยความโกรธ


ไอ้นี่...มองความหล่อของเขาเป็นอะไรล่ะโว้ยย นี่เขาพูดความจริงเขาผิดยังไง หรือจะปฏิเสธว่าเขาไม่หล่อออ


“นาย...อยากจะตายใช่มั้ย..” อี้เฟิงถามพลางจับไปที่คออีกฝ่ายเบาๆ ราวกับต้องการจะขู่ว่าจะจัดการบีบคออีกฝ่ายให้ตายคามือจริงๆ


แต่แล้วเจ้าของใบหน้าหล่อก็ทำในสิ่งที่อี้เฟิงไม่อยากจะคิด เพราะหยางหยางเพียงแค่เอื้อมมือมากอดเอวเขาไว้แน่น ก่อนที่ใบหน้าหล่อจะขยับเข้ามาใกล้จนแทบจะชิด


“ก็ฆ่าผมให้ตายเลยสิครับ...ถ้าอยากเป็นหม่ายตั้งแต่วันแรกที่เข้าห้องหอ..” เสียงทุ้มต่ำกระซิบบอก ก่อนที่จะไล้ปลายจมูกของตนเองไปตามผิวแก้มขาวเนียน จนคนถูกสัมผัสอดไม่ได้ที่ตัวสั่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้


โครม!!


เสียงของความเสียหายดังขึ้นมาอีกครั้งเมื่อคนที่อยู่ในชุดเจ้าสาวนั้นผลักคนที่แกล้งตนออกไปเต็มแรง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้หยางหยางรู้สึกโกรธเคืองอะไร แถมยังรู้สึกสนุกด้วยซ้ำที่ได้แกล้งอีกฝ่าย


“โว้ยยยยย ฉันเป็นผู้ชายนะโว้ย จะหม่ายไปยังไงก็มีสาวๆมารอแต่งงานด้วยเพียบ” อี้เฟิงโวยวายพลางลุกขึ้นยืน “อีกอย่างหน้าตาอย่างฉันต่อให้เป็นหม่าย ก็หาใหม่ได้ตลอดเว้ยยยยยยยยยย”


“ฮ่าๆๆๆ งั้นหรอครับ...จะหาใหม่ได้ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้แต่งกับผู้ชายมาก่อนงั้นหรอครับ? เอ๋? ผมว่าหนุ่มๆจะมารุมล้อมกว่าเดิมมากกว่าม้างงง...” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยหยอก นั่นเองที่ทำให้เจ้าของใบหน้าหวานรู้สึกไม่พอใจขึ้นไปอีก


“เออ..ก็ถือว่าฉันหน้าตาดีไม่ใช่หรอไง ต่อให้มีผู้ชายมาชอบก็เถอะ”


“คร้าบบบ คร้าบ พี่หน้าตาดีก็หน้าตาดี” หยางหยางเอ่ยอย่างยอมแพ้พร้อมยกมือขึ้นเป็นเชิงว่ายอมแล้ว “ว่าแต่ น่าแปลกใจจริงๆนะครับเนี่ย ผมนึกว่าคุณหลี่จะมีลูกสาวซะอีก...”



“ทำไม..ลูกชายแล้วทำไม...คิดว่าฉันอยากแต่งงานกับนายนักหรอไง...”


“ไม่ได้ติดปัญหาที่ตรงว่าลูกชายซะหน่อย ผมโตในอเมริกานะ เรื่องรักร่วมเพศแบบนี้ผมยอมรับได้อยู่แล้วล่ะ” หยางหยางบอก “แค่แปลกใจ..ที่ผมจำได้เหมือนคนที่ผมเคยเจอจะเป็นพี่สาว..” ประโยคสุดท้ายเหมือนจะพึมพำอยู่กับตัวเอง ก่อนที่เจ้าของใบหน้าหล่อจะหันมามองอี้เฟิงที่กำลังกอดอกด้วยความไม่พอใจ “แล้วพี่ไม่เหนื่อยหรอครับ..? จะไปอาบน้ำก่อนมั้ย?”


“เหนื่อย เหนื่อยมาก เหนื่อยจากงานแต่งแล้ว ฉันยังต้องมาเหนื่อยกับนายอีกเนี่ย” เสียงหวานบ่น จนคนที่ฟังอยู่อดยิ้มบางๆออกมาไม่ได้


“ห้องน้ำอยู่ทางนู้นนะครับ...ส่วนเสื้อผ้าน่าจะถูกเตรียมไว้แล้ว...”


“แล้วนาย...เออ..”


“พี่อยากจะให้ผมเข้าไปอาบน้ำด้วยหรอครับ? อ่า...คุณพ่อครับ เจ้าสาวที่คุณพ่อจัดไว้ให้ดูช่างร้อนแรงจริงๆครับ..” ยังไม่ทันจะพูดจบประโยคดีหมอนใบใหญ่ก็ถูกปาใส่


“ไอ้บ้าเอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ฉันแค่จะถามว่านายจะไม่อาบหรอไง โว้ยยยยยยยยยยยยย” โวยวายเสร็จเจ้าของใบหน้าหวานก็เดินหายไปทางห้องน้ำ โดยที่มีหยางหยางยืนมองด้วยรอยยิ้มขำๆตามไป


ดูท่าทางเจ้าสาวของเขาจะแสบแล้วไม่เหมือนใครจริงๆนะเนี่ย...


***********


“...หยาง...หยางหยาง..” หลังจากที่อาจารย์อี้เฟิงหายไปในห้องน้ำได้ซักพัก ก็มีเสียงเรียกของมาจนทำให้เจ้าของชื่อที่เพิ่งเปลี่ยนเป็นชุดลำลองเสร็จต้องเดินไปตามเสียงเรียกนั้น


“มีอะไรหรอครับ..พี่อี้เฟิง” เสียงทุ้มต่ำถามจากหน้าประตูห้องอาบน้ำ ก่อนที่ประตูบานเลื่อนจะถูกเปิดออกมาน้อยๆ พร้อมกับใบหน้าที่ดูเขินๆของคนในห้องน้ำ


“ฉันถอดชุดบ้าๆนี่ไม่ได้อ่ะ..ช่วยหน่อยสิ..” ไม่รู้ว่าหยางหยางรู้สึกไปเองหรือเปล่า..แต่เขากลับรู้สึกว่า เขากำลังถูกอีกฝ่ายอ้อน...สินะ..


“ได้สิครับ..” พูดจบก็แทรกตัวเข้าไปยืนอยู่ในห้องน้ำ 


"จะ...เข้ามาทำไมล่ะเอ้ยยย!" นัยน์ตากลมโตมองด้วยความหวาดระแวง ถ้าหยางหยางมองไม่ผิดเหมือนเห็นคนตรงหน้าเป็นแมวตัวโตแล้วกำลังขู่เขาด้วยตาโตๆนั่น


"ก็มาช่วยพี่ถอดไงครับ..." มือหนาวางลงบนชุดนั้น ก่อนที่จะจับให้อาจารย์หนุ่มยืนหันหลัง และค่อยๆปลดชุดนั้นออก 


ผิวขาวเนียนปรากฎขึ้นหลังจากที่ชุดเจ้าสาวนั้นถูกปลดให้หลวม ทำเอาคนที่กำลังช่วยถอดชุดนั้น ต้องแอบกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก 


"พี่พอถอดเองต่อได้แล้วสินะครับ.." หยางหยางถาม


"อือ ช่วยแค่นี้ก็ขอบคุณมากแล้วล่ะ รำคาญชุดนี้จะตาย" ดูท่าทางแมวตัวโตจะขี้หงุดหงิดมากจริงๆนะเนี่ย "แต่ก็ขอบคุณนะ.." 


"ไม่เป็นไรหรอกครับ จะให้ผมช่วยถอดมากกว่านี้ก็ได้นะครับ ก็ผมเป็นสามีพี่นี่น่า.." พูดจบ เจ้าของใบหน้าหล่อก็หลบออกมานอกห้องน้ำ แล้วรีบปิดประตูอย่างรวดเร็ว


"ไอ้บ้า !@#$%%&+?//*_"'()--:" และเป็นอย่างที่คิดไว้ว่าเสียงอวยพรของอี้เฟิงก็ตามมา ทำให้หยางหยางอดไม่ได้ที่จะหลุดขำออกมา 


ก่อนที่มือหนาลูบเข้ากับใบหน้าของตัวเองเบาๆ เมื่อคิดถึงผิวขาวๆของอีกฝ่ายที่เพิ่งเห็นมา


..อ่า...ให้ตายสิ... อยากสร้างรอยแดงๆตรงนั้นจังเลยน้า...



**********


"อ้าว ไอ้แกะบ้านั่นหายไปไหนแล้วเนี่ย.." เสียงหวานบ่นพึมพำหลังจากออกมาจากห้องน้ำแล้วไม่พบใครในห้องแห่งนี้ นัยน์ตาคู่สวยกวาดมองไปรอบๆ อย่างต้องการจะมองหาอีกฝ่าย พลางใช้มือของตนเช็ดผมไปด้วย 


ก่อนที่เสียงเปิดประตูจะดังขึ้นเบาๆจากประตูบานเล็กๆในห้อง พร้อมกับร่างสูงที่เดินเข้ามาในชุดอยู่บ้านแบบสบายๆของตน ทำให้อี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะมองตามที่อีกฝ่ายเดิน


"พี่มีอะไรหรอครับ?" คนถูกจ้องถาม หลังจากที่รู้สึกได้ว่าถูกดวงตากลมๆนั่นจ้องมาได้ซักพัก


"เปล่า แค่แปลกใจว่านายหายไปไหนมาเฉยๆ" 


"อ๋อ..กลัวว่าผมจะหายไปสินะครับ.." 


"ก็แย่และ.." จริงๆอี้เฟิงอยากจะหลุดคำหยาบคายออกมาด้วยซ้ำ แต่ก็เอาเถอะ...เขายังคงต้องรักษาภาพพจน์อันดีงามของการเป็นอาจารย์หนุ่มอยู่


"อ่ะๆ ผมยอมแพ้แล้วครับ พอดี..ผมไปอาบน้ำในห้องอาบน้ำเล็กในห้องทำงานมาน่ะ.." เจ้าของใบหน้าหล่อยกมือยอมแพ้พร้อมกับเอ่ยบอกแบบไม่คิดอะไรมาก 


"ห้องทำงานทำไมต้องมีห้องอาบน้ำแยก...เอ๊ะ.." เจ้าของใบหน้าหวานร้องด้วยความตกใจน้อยๆเมื่ออยู่ดีๆผ้าเช็ดผมก็ถูกวางลงบนศีรษะของตน พร้อมกับแรงขยี้เบาๆ 


"เอาไว้เวลาตอนดึกๆ คุณพ่อต้องทำงานจนเช้าก็แวะเข้าไปอาบน้ำจะได้ไม่รบกวนคุณแม่ที่นอนอยู่น่ะครับ" 


"อ่า....คุณพ่อคุณแม่ของนายสินะ...แล้วท่านไปไหนซะแล้วล่ะ.." 


"เสียแล้วน่ะครับ..เมื่อไม่นานมานี้เอง ผมถึงต้องรีบกลับมาจีนไง" หยางหยางตอบด้วยเสียงเรียบเฉย ราวกับไม่รู้สึกยินดียินร้ายอะไร แต่กระนั้นก็ยังคงยืนเช็ดผมให้ผู้เป็นพี่อยู่แบบนั้น 


"อ๊ะ..ฉันขอโทษ..ฉันไม่รู้" 


"ไม่เป็นไรหรอกครับ เกิดแก่เจ็บตายมันเป็นเรื่องธรรมชาติน่ะ" 


"นายนี่มัน..." อาจารย์หนุ่มรู้สึกอับจนหนทางในการพูดต่อ จึงเลือกที่จะไม่พูดอะไร


"จริงๆนะครับ ผมไม่รู้สึกอะไรแล้วล่ะ" หยางหยางบอก ก่อนที่จะหยิบผ้าเช็ดผมออกจากเรือนผมสีน้ำตาล "ถ้าพี่อยากจะขอโทษจริงๆล่ะก็ ขอเป็นหอมซักสองสามฟอดแล้วกันนะครับ.." พูดจบก็ทำแก้มป่องๆแล้วยื่นมาตรงหน้าเจ้าของใบหน้าหวาน


"หยางหยาง..." เสียงหวานเอ่ยเรียก พร้อมกับรอยยิ้มที่ถูกส่งให้ ก่อนที่แก้มขาวๆตรงหน้าจะถูกดีดอย่างแรง


"โอ้ย เจ็บนะครับ!!!" แกะน้อยโวยวาย พร้อมกับลูบแก้มตัวเองเบาๆ "ได้ครับ ถ้าไม่งั้นผมหอมเองก็ได้.." ก่อนที่อี้เฟิงจะรู้สึกได้ถึงริมฝีปากที่สัมผัสเข้ามาบริเวณผิวแก้มของตน


"ไอ้แกะบ้าาา โอ้ยยยยยยยยยยย" อาจารย์หนุ่มยืนสติหลุดไปซักพักก่อนที่จะโวยวายออกมา และนั่นเองที่ทำให้เจ้าของใบหน้าหล่อหลุดหัวเราะออกมาไม่ได้


ก่อนที่เสียงหยอกล้อ (ของหยางหยาง) และเสียงโวยวาย (ของอี้เฟิง) จะดังอยู่อย่างนั้นตลอดทั้งคืน 




--------------------------------------------------------------2BC----------------------------------------------------------------------------

พาสสองพี่น้องหยอกกัน อาจจะน่าเบื่อไปนิดนะคะ แง้ TvT 

วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2558

[YangFeng Fan-fiction] คุณชายหยางหยาง VS อาจารย์อี้เฟิง - 01

คุณชายหยางหยาง VS อาจารย์อี้เฟิง - 01


Pairing : YangFeng 


Note : ... อย่าตบหนูนะคะ.... 





เนื้อหาเกี่ยวกับ ชาย X ชาย นะคะ ถ้าไม่ชอบแนะนำให้กดออกไปเลยค่ะ 





ท่ามกลางสนามบินอันพลุกพล่านของท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง ที่ลายล้อมไปด้วยนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ชายหนุ่มราวสิบคนในชุดสูทสีดำกำลังยืนกระจายอยู่รอบๆสนามบิน โดยที่ทุกคนล้วนพกเครื่องมือสื่อสารขนาดเล็กที่ทันสมัย และอุปกรณ์ป้องกันตัวที่ทันสมัย นอกจากนั้นทุกคนยังพร้อมใยกันใส่แว่นดำ ราวกับไม่ต้องการที่จะเปิดเผยตัวตนอีกด้วย




(คุณชายลงมาจากเครื่องบินแล้ว...กำลังรอโหลดกระเป๋า)




เสียงดังขึ้นจากในวิทยุสื่อสารทำให้บรรดาชายในชุดสูททั้งหลายรีบสแตนบายในที่ของตนเองทันที





รอเพียงชั่วอึดใจ เจ้าของใบหน้าหล่อในชุดเสื้อโค๊ททันสมัยก็เดินออกมาจากภายในเกต ใบหน้าคมคายที่ทำให้ทุกคนบริเวณนั้นถึงต้องหันมองอย่างช่วยไม่ได้กำลังมองตรงไปข้างหน้า บวกกับท่าเดินที่ดูสง่า ทำให้มีเสียงกระซิบตามมาอย่างช่วยไม่ได้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร





แต่เมื่อทันทีที่สังเกตเห็นตราเข็มกลัดที่ติดอยู่ตรงหน้าอกของชายในชุดสูทที่อยู่ด้านหลังแล้ว เสียงกระซิบกระซาบก็ยิ่งดังขึ้นกว่าเดิมเข้าไปอีก เนื่องจากตรานั้นเป็นตาของบริษัทที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าของธุรกิจรายใหญ่ของจีน มีอำนาจทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง แทบจะเรียกได้ว่าเป็นมาเฟียตัวเป๋งดีๆนี่เอง





แต่แม้ว่าเสียงพูดถึงจะดังขนาดไหนนั้น ก็ไม่ทำให้เจ้าของใบหน้าหล่อรู้สึกอะไรขึ้นมาได้ นอกจากใบหน้าที่ยิ้มบางๆเท่านั้น





"คุณชายหยางหยางครับ...เสียงเรียกจากชายในชุดสูทสีดำเอ่ยเรียกพลางโค้งตัวให้เล็กน้อย "กระผมมีนามว่าหลวนชุน เป็นหัวหน้าบอดี้การ์ดที่คุณท่านแต่งตั้งไว้ให้ดูแลคุณชายที่นี่ครับ.."




"งั้นหรอครับ...คนที่ถูกเรียกว่าหยางหยางยิ้มรับบางๆ "งั้นก็ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ...."




"เชิญคุณชายทางนี้เลยครับ..พูดจบก็ผายมือไปยังรถลีมูซีนที่ถูกจอดอยู่ไม่ไกล และนั่นเองที่ทำให้ผู้เป็นนายต้องถอนหายใจออกมา




"มีรถเล็กๆ ธรรมดามั้ย?" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถาม พลางมองไปรอบๆ
แท้จริงแล้วเขาไม่ต้องการเป็นจุดสนใจเท่าไหร่นัก....แต่ด้วยความที่ว่าเกิดในตระกูลนี้ การห้ามการโดนจ้องมองและเข้าหานั้นคงเป็นไปได้ยากมาก




"ขอโทษครับคุณชาย...พอดีมีแต่รถคันนี้...คำตอบที่ได้รับกลับมาทำเอาหยางหยางถึงกับต้องถอนหายใจออกมา ก่อนที่ขายาวๆนั้นจะก้าวเดินไปขึ้นรถหรูที่มีบรรดาบอดี้การ์ดเปิดประตูรอไว้อยู่แล้ว




หลังจากที่รถออกตัวมาได้ไม่นาน หยางหยางก็ได้ยินเสียงของหลวนชุนดังเข้ามาในห้องโดยสารของตน ซึ่งก็พูดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆมากมาย จนคนที่นั่งฟังอยู่อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างหน่ายๆ





การที่โดนเรียกกลับมาจีน อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เขาเบื่อที่สุดก็ได้ เขาไม่ชอบวิถีชีวิตที่ต้องปกครองคนมากมายเท่าไหร่...แท้จริงแล้วเขาก็ไม่อยากทำด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดว่าเขาเป็นลูกคนเดียว แล้วพ่อและแม่ของเขาเพิ่งประสบอุบัติเหตุทางเครื่องบินจนเสียชีวิตเมื่อเดือน เขาคงไม่ต้องกลับมาจากอเมริกาเร็วกว่ากำหนดแบบนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะจบปริญญาเอกเร็วกว่ากำหนด แต่เขาก็ยังอยากจะเที่ยวเล่นก่อนซักพักล่ะนะ..





"ส่วนเรื่องการรับเข้าตำแหน่งแบบเต็มรูปแบบ....ของคุณชาย และเรื่องการแต่งงานตามพินัยกรรมที่คุณผู้ชายได้เขียนไว้....ประโยคล่าสุดทำให้คนที่ตกอยู่ในภวังค์กลับมาสนใจฟัง ถึงแม้ว่าเขาจะรู้รายละเอียดคร่าวๆว่า คนที่จะมาแต่งงานกับเขาเป็นลูกของเพื่อนสนิทที่ฐานะแตกต่างราวฟ้ากับเหวของพ่อ แถมถ้าเขายังจำไม่ผิด....อีกฝ่ายยังคงเป็นรักแรกสมัยเด็กของเขาอีกด้วย
รอยยิ้มสดใสที่เด่นชัดอยู่ในความทรงจำ แม้ใบหน้าจะเลือนลางไปบ้าง แต่กระนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะใจเต้นทุกครั้งที่นึกถึง



"ทางตระกูลหลี่ได้ตกลงมาเรียบร้อย โดยที่คุณชายจะได้พบตัวเจ้าสาวที่งานแต่งเลยนะครับ..."




"โดยที่งานแต่งงานจะจัดขึ้นในอีกหนึ่งอาทิตย์ให้หลังนะครับ..."




"อืม.....หยางหยางกดเปิดไมค์ตอบรับเป็นการรับรู้ ก่อนที่ความเงียบจะเข้าปกคลุมพื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังไปตลอดทาง





**********



ปึก!



เสียงวางกองเอกสารขนาดใหญ่ลงบนโต๊ะ พร้อมกับเสียงถอนหายใจจากเจ้าของใบหน้าหวาน ริมฝีปากคู่สวยพ่นลมหายใจออกมาอย่างรู้สึกเหนื่อยล้า



ก่อนที่จะมีหนังสือเล่มบางๆตบลงเบาๆลงบนผมสีน้ำตาลนั้นเบาๆ




"เป็นอะไรไป อาจารย์อี้เฟิง ดูเหนื่อยๆนะเสียงทักจากอาจารย์รุ่นพี่อย่างเฉินเหว่ยถิงเอ่ยถามรุ่นน้องผู้เพิ่งมาเป็นอาจารย์ฝึกหัด ทั้งๆที่เจ้าตัวยังเป็นนักศึกษาปริญญาโทอยู่



"ช่วงนี้เด็กดูดื้อๆน่ะครับ พี่เหว่ยถิง...เสียงหวานตอบพลางดันแว่นให้เข้าที่



"ไม่ใช่เพราะนายหน้าตาดีเกินไปจนนักเรียนทั้งห้องเอาแต่จ้องหน้านายหรือไง...รุ่นพี่เอ่ยแซว



"หึ..รุ่นพี่อย่าเอาความจริงมาพูดเล่นแบบนี้สิครับก่อนที่หลี่อี้เฟิงจะหัวเราะออกมาเบาๆ



"ฮ่าๆ นายนี่มันหลงตัวเอง สมที่เป็นเดือนมหาลัยจากคณะนิเทศตอนป.ตรีจริงๆ"




"ก็คนมันหล่อจริงๆนี่ครับ.."



"โอเคๆ ฉันไม่เถียงนายแล้วเหว่ยถิงยกมือยอมแพ้ "แต่ก็ว่าก็ว่าเถอะ ทำไมช่วงนี้นายดูเหม่อๆ มีเรื่อง.ห้คิดเยอะล่ะสิ..."



"ฮะๆ ก็พอตัวล่ะครับ...อี้เฟิงตอบ พลางคิดถึงเรื่องที่ตนเพิ่งได้คุยกับแม่ของตนมาเมื่อไม่นานมานี้ เรื่องคำสั่งเสียของพ่อที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน



คำสั่งเสียที่ทำให้เขาต้องแต่งงานกับลูกเพื่อนสนิทของพ่อ....เพราะคำสัญญาที่สัญญาไว้ตั้งแต่ก่อนเขาเกิด

แถมคนที่เขาต้องแต่งงานด้วยยังเป็นคนที่เขาเคยเห็นหน้าแค่ตอนเด็กเนี่ยนะ....



ถามว่าจำได้มั้ย
ตอบเลย ไม่ได้หรอก ก็ตั้งแต่เด็กๆเขามีสาวๆเข้ามาคุยด้วยมากมายจะไปจำได้ยังไงล่ะ... แน่นอน สาเหตุที่สาวๆเข้ามามากมาย เพราะเขาหน้าตาดีแต่เด็ก



และงานแต่งงานนั้นดันกระชั้นชิดมาก....จนเขาตั้งตัวไม่ทัน...แต่ก็นะ ทำยังไงได้ล่ะ จะให้หอบผ้าหอบผ่อนไปต่างประเทศตอนนี้ก็ไม่ได้ จะให้ไปต่างจังหวัดก็ไม่ไหว เพราะใบปริญญาใบที่สองกำลังค้ำคออยู่เนี่ยสิ... ค่าเรียนก็ตั้งแพง กว่าจะได้มาก็ลำบาก กะอีแค่ผู้หญิงคนเดียวมาแต่งงานด้วย จะให้มาขัดขวางใบเพิ่มเงินเดือนเขาไม่ได้หรอกนะ!




"...เฟิง...อี้เฟิงผู้เป็นรุ่นพี่เอ่ยเรียกอีกครั้ง ทำให้เจ้าของชื่อได้สติ



อะไรหรอครับพี่เหว่ยถิง..




ท่าทางนายดูเหนื่อยๆนะ ไปพักก่อนมั้ยเอกสารพวกนี้ไว้ค่อยจัดการก็ได้นี่




อ่า...นั่นสินะครับ..” จะว่าไปอี้เฟิงก็รู้สึกคิดมากมาหลายวันแล้วตั้งแต่รับรู้เรื่องงานแต่งงาน จนตอนนี้เหลือเวลาเพียงไม่ถึงอาทิตย์เท่านั้น




คิดแล้วก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาแบบแปลกๆ รู้สึกว่าปีนี้จะไม่ใช่ปีชงของเขา แถมช่วงต้นปีเขาโดนทักว่าจะโชคดีตลอดทั้งปี...เห็นว่าคงจะเชื่อไม่ได้แล้วล่ะมั้ง...





งั้นก็กลับบ้านดีๆนะ อาจารย์อี้เฟิงคนเก่ง..” ผู้อาวุโสกว่าพูดพลางลูบศีรษะที่ปกคลุมไปด้วยผมสีน้ำตาลเบาๆ




หวังว่าเจ้าสาวของเขาจะอ่อนโยนได้ซักครึ่งของพี่เหว่ยถิงนะ.....





เจ้าของใบหน้าหวานเก็บของทั้งหมดลงกระเป๋า ก่อนที่จะก้าวเดินออกมาจากห้องพักอาจารย์ เพื่อที่จะกลับบ้าน




"เอ๊ะ...นักศึกษาอี้เฟิง...ไม่สิ อาจารย์อี้เฟิง" เสียงเรียกจากคณบดีที่กำลังเดินอยู่ตรงหน้าเอ่ยเรียก ทำให้เจ้าของชื่อต้องเงยหน้ามองอย่างช่วยไม่ได้ และก็พบว่านอกจากคณบดีผู้เป็นเสมือนหนึ่งในเจ้านายตนแล้ว ยังมีชายหนุ่มหน้าตาดีในชุดสูทสุดหรูอยู่อีกคนหนึ่ง




"อ้าว สวัสดีครับ..." อี้เฟิงเอ่ยทักทายเฉกเช่นปกติ และค่อนข้างจะแปลกใจที่เห็นอีกฝ่ายในเวลานี้ เนื่องจากส่วนใหญ่จะพบในตอนเช้าเท่านั้น




"ยังเป็นเด็กดีไม่เปลี่ยนเลยนะ....เออ...ใช่...นี่คุณหยางหยางครับ....นี่อาจารย์อี้เฟิง นักศึกษาปริญญาโทควบตำแหน่งอาจารย์"




"ยินดีที่ได้รู้จักครับ...อาจารย์อี้เฟิง..." เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากเจ้าของใบหน้าหล่อในชุดสูท พร้อมกับรอยยิ้มบางๆที่ทำให้อี้เฟิงแอบรู้สึกหมั่นไส้อีกฝ่ายในใจ




คนบ้าอะไรวะทำตัวยังไงก็ดูหล่อ...แม่ง...บังอาจมาหล่อแข่งกับเขาได้ยังไง




อาจารย์หนุ่มยิ้มรับอีกฝ่ายบางๆ "ครับ...ยินดีที่ได้รู้จัก แต่จริงๆไม่ต้องเรียกผมว่าอาจารย์ก็ได้นะครับ..อายุเราก็ไม่น่าจะต่างกันมาก..."




"อ่า....งั้นผมเรียกว่าพี่อี้เฟิงแล้วกันนะครับ..." เจ้าของเสียงทุ้มบอก ทำเอารอยยิ้มของอี้เฟิงเปลี่ยนเป็นยิ้มแห้งๆ
นี่หน้าตูแก่ขนาดไม่ถามอายุแล้วโดนเรียกพี่เลยหร๊อ...




"ฮ่าๆ ไม่ต้องทำหน้าคิดว่าตัวเองแก่กว่าเลยหรอ ใส่คุณหยางหยางเลย เขาเด็กกว่านายอยู่แล้วน่ะ" คณบดีบอก อย่างรู้ใจจนบางทีอี้เฟิงก็แอบคิดไม่ได้ว่าอักฝ่ายต้องเป็นพยาธิในท้องตนแน่ๆถึงมารู้ความคิดกันได้




"อ่า...ลำบากใจที่จะให้ผมเรียกว่าพี่หรือเปล่าครับ? งัเนผมเรียกคุณอี้เฟิงก็ได้นะครับ..."




"เอ้ย! ไม่ๆๆ ไม่เป็นไรครับๆ เรียกพี่อี้เฟิงก็ได้ ผมไม่ถือ" เจ้าของชื่อรีบบอก




"ดีแล้วๆ สนิทกันไว้นะ เพราะดูว่าจะได้ร่วมงานกันอีกนาน.."




"ครับ..." อี้เฟิงตอบรับ พลางจ้องสำรวจชายหนุ่มในชุดสูทอีกครั้ง




ถ้าหมอนี่มาสอนเรทติ้งในคณะของเขาต้องตกลงแน่ๆ หมายเลข ม่ายยยยยยย




"อ๊ะ เหมือนจะได้เวลาแล้วล่ะ ไปกันเถอะ..." คณบดีหันมาบอกคนที่อยู่ข้างตัว ซึ่งเจ้าของใบหน้าหล่อก็พยักหน้ารับเบาๆ




"ไว้เจอกันนะครับ..." หยางหยางหันมาบอกก่อนที่จะเดินตามหัวหน้าของอี้เฟิงไป
อี้เฟิงได้แต่มองตามทั้งคู่ไปแบบงงๆ ก่อนที่จะหลุดถอนหายใจออกมาอีกครั้ง เมื่อนึกถึงเรื่องของตัวเองขึ้นมาได้




กลับบ้านดีกว่า....




คิดได้ดังนั้นก็รีบก้าวไวๆออกจากคณะทันที




**********


จะว่าไปเวลามันก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วจริงๆ...หลี่อี้เฟิงจำได้ว่า เกือบทุกคนพูดว่าเวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปด้วยความรวดเร็วเสมอ...และกว่าจะผ่านเวลาแต่นาทีแห่งความทุกข์ยากไปนั้นช่างยาวนาน... ทั้งๆที่ภายในช่วงเวลาที่ผ่านมาก่อนเวลาโดนจับคลุมถุงชนนั้น เจ้าของใบหน้าหวานก็ไม่ได้รู้สึกถึงความสุขมากเท่าไหร่ แต่ทำไมเวลาถึงกลับมาผ่านไปรวดเร็วอย่างนี้

ในตอนแรกเขายังจับต้นชนปลายอะไรไม่ถูก เพราะเนื่องจากว่าตื่นมาตอนเช้าก็ได้ยินเสียงเคาะประตูหน้าห้อง และพอเปิดออกไปก็พบชายหนุ่มในชุดสูทจำนวนมาก กำลังทำความเคารพอย่างนอบน้อม แล้วเขาก็ถูกจับมายังห้องแต่งตัวที่ประหนึ่งเป็นสถานที่รวมตัวของช่างแต่งหน้า ทำผมมือหนึ่ง ที่พร้อมใจกันละเลงทุกอย่างลงบนตัวเขา แถมยังจับเขาใส่ชุดเจ้าสาวที่ถูกตัดด้วยเนื้อผ้าชั้นดีแบบจีนโบราณอีกซะด้วย




อี้เฟิงได้แต่ทำเสียงฮึดฮัดและนั่งรออยู่นิ่งๆ พลางคิดเล่นๆว่า ท่าทางเจ้าสาวของเขาจะแสบไม่ใช่น้อย..เพราะว่าถ้าจับให้เขามาแต่งเป็นผู้หญิงแบบนี้ อีกฝ่ายต้องแต่งตัวเป็นผู้ชายแน่ๆ แถมพ่อแม่อีกฝ่ายก็คงวัยรุ่นมาก ขนาดที่ว่าให้ลูกสาวของตนเล่นพิเรนๆได้ถึงขนาดนี้



และตลอดทั้งวันนั้นเขาก็ยังไม่ได้ยินว่าที่เจ้าสาวของเขาพูดอะไรซักคำ นอกจากการทำความเคารพได้ยินเพียงแค่เสียงทุ้มต่ำแบบผู้ชายเท่านั้นที่คอยหันมาถามว่าเหนื่อยมั้ย ท่าทางสาวน้อย(ที่คิดว่าน่ารัก)ของเขาจะไม่ค่อยชอบพูดล่ะมั้ง...




แต่...เขาก็ไม่รู้นะว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่า...ว่าเสียงของคนที่คอยถามน่ะ ดูคุ้นหูอย่างบอกไม่ถูก เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนน่ะนะ...




อันที่จริงก็อดสงสัยไม่ได้ว่าใครกันที่คิดวิธีแต่งงานแบบนี้ขึ้น...แต่ก็ว่าแหละมันก็ดูสบายดี อีกทั้งการที่เจ้าของใบหน้าหวานมาอยู่ในชุดเจ้าสาวแบบปิดหน้าก็ถือว่าเป็นผลดีต่อเขาแหละนะ เพราะอย่างน้อยก็สามารถปกปิดเรื่องที่เขาแต่งงานแล้วแบบสบายใจ และไม่ต้องกลัวว่าความจะแตกไป




"เฮ้อ..." คนที่อยู่ในชุดเจ้าสาวถอนหายใจออกมาเล็กน้อยหลังจากรู้ว่าพิธีจบแล้ว วันนี้ทั้งวันหลังจากที่โดนลากออกมาแต่งหน้าแต่งตัวเสร็จแล้วเขาก็ยังไม่ได้มองหน้าใครจริงๆจังๆเลย แถมยังรู้สึกรำคาญชุดแต่งงานแบบจีนโบราณนี้จนอยากจะถอดและเขวี้ยงทิ้งมากๆซะด้วย



แต่เอาจริงๆวันนี้เกือบทั้งวันอี้เฟิงแทบไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากมองปลายเท้าคนที่มายืนอยู่ข้างหน้าตนและโค้งคำนับให้เบาๆ แค่นั้นจริงๆนะ 




เอาเถิด...อย่างน้อยก็จบพิธีแล้ว...นอกจากจะได้พักผ่อนแล้วเขายังจะได้เห็นหน้าตาของเจ้าสาวที่เขาโดนจับแต่งงานด้วยแล้วสินะ...



"เหนื่อยมากมั้ย..." เสียงทุ้มต่ำยังคงเอ่ยถามอย่างเช่นเดิม จนอี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะสงสัยขึ้นมาว่าทำไมเจ้าของเสียงนี้ถึงยังมาอยู่ในห้องหอได้




หรือว่าเจ้าสาวของเขาจะเป็นผู้หญิงเสียงแมน!!!



"ขอโทษนะ..แต่อึดอัดหรือเปล่า...เดี๋ยวฉันช่วยถอดให้นะ.." คำถามยังคงดังขึ้นพร้อมกับแรงที่มาขยับผ้าปิดหน้าเบาๆ ซึ่งอี้เฟิงก็นั่งนิ่งๆให้อีกฝ่ายถอดให้ดีๆ




อี้เฟิงนั่งจ้องผ้าคลุมหน้าที่ถูกถอดออกไปอย่างช้าๆ ก็พยายามที่จะมองหาเจ้าสาวของตน แต่สิ่งที่เห็นตรงหน้ากับเป็นใบหน้าหล่อๆแทนซะอย่างนั้น




โครม!!!




และก่อนความคิดสิ่งอื่นใด คนที่อยู่ในชุดเจ้าสาวมาทั้งวันก็ถีบโครมเข้าให้แบบเต็มแรง




"ทำไมถึงเป็นนายล่ะหยางหยาง! /ทำไมถึงเป็นพี่ล่ะครับ พี่อี้เฟิง"









---------------------------2BC-------------------------