Yangyang in wonderland
Pairing : กิเลนแกะ
Note : เนื้อเรื่องตามชื่อเรื่องเลยค่ะ (..............)
[[Intro]]
เนื้อหาเกี่ยวกับ ชาย X ชาย นะคะ ถ้าไม่ชอบแนะนำให้กดออกไปเลยค่ะ
“เหมือนนาย............?” เสียงทุ้มต่ำอย่างที่หยางหยางได้ยินในทุกๆวันเอ่ยทวน
คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเล็กน้อย
ก่อนที่มือหนาจะเลื่อนมาวางบนเส้นผมสีน้ำตาลของคนที่นั่งอยู่บนเตียง “หัวนาย....ไม่ได้ไปกระแทกอะไรมานะ..”
“เสี่ยวเกอ เทียนเจินตื่นแล้วหร๊ออออออ”
เสียงโวยวายดังขึ้นพร้อมกับร่างของชายตัวอ้วนที่เดินเข้ามา
ในช่วงวินาทีมือหนาที่จับหัวของคนที่เพิ่งฟื้นก็ละออกไปอย่างรวดเร็ว “เป็นยังไงบ้างเทียนเจิน
นายน่ะหลับไปเกือบวันเลยนะ!”
“อ่า....” คนที่เพิ่งฟื้นอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงออกมาอย่างงงงวยว่าสรุปตอนนี้เรื่องเป็นยังไงกันแน่
แต่ดูเหมือนว่า คนที่อยู่ในฮู๊ดสีน้ำเงินนั้นจะอ่านอะไรบางอย่างออก จากนัยน์ตาของ ‘อู๋เสีย’
ตรงหน้าของตัวเองออก
จึงตัดสินใจเดินออกจากห้องไป โดยที่ไม่ลืมที่จะลากชายตัวอ้วนออกไปด้วย
เมื่อทุกคนออกไปแล้ว
คนที่นั่งบนเตียงจึงค่อยๆใช้สายตาสำรวจร่างกายตัวเองทีละน้อย..แล้วก็พบว่า
ตนเองอยู่ในชุดลำลองแบบสบายๆ พร้อมกับผ้าห่มหนึ่งผืน
ตามร่างกายไม่มีอะไรแปลกๆนอกจากรอยแผลเป็นที่ดูราวกับถูกกรีดด้วยของมีคมเป็นจำนวนมาก..แม้จะเกิดความสงสัย
แต่หยางหยางก็ยังไม่สามารถประติดประต่อเรื่องราวได้
ก่อนที่จะกวาดสายตาไปมองรอบๆห้องก็พบกับสภาพบ้าน ที่ตกแต่งราวกับอยู่ในชนบท..
...นี่...เขามาอยู่ที่ไหน?... แล้วคนพวกนั้นคือใคร..?
เด็กหนุ่มกำลังเรียบเรียงความทรงจำในสมอง...พลางนึกไปถึงนิยายที่อ่านก่อนที่จะสลบไปแล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่า
เสี่ยอ้วน
นี่คือหนึ่งในตัวละคร..ส่วนเสี่ยวเกอก็ใช่เหมือนกัน..ว่าแต่ถ้ามีสองคนนี้แล้ว
แล้วอู๋เสีย...หายไปไหนกันล่ะ?
เพียงคิดได้แค่นั้น ร่างที่นั่งอยู่บนเตียงก็รีบพาตัวเองไปหากระจกที่ถูกติดอยู่ที่มุมห้องทันที
และเมื่อเห็นภาพที่สะท้อนบนกระจกนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะร้องลั่นด้วยความตกใจออกมา
เพราะนั่นดันไม่ใช่ใบหน้าของหยางหยางที่เขาเห็นอยู่ทุกวัน
แต่กลับกลายเป็นใบหน้าของคนที่เขาไม่รู้จัก...
หรือว่าเขาอาจจะรู้จักอีกฝ่ายในฐานะดาราชื่อดังประจำชาติที่เดินไปทางไหนก็เจอ...
มือเรียวเลื่อนไปสัมผัสบริเวณกระจกอย่างแผ่วเบาราวกับกลัวว่ามันจะแตกสลาย
ภาพชายหนุ่มที่ดูอายุอาราวน่าจะประมาณยี่สิบปลายๆ ใบหน้านั้นในยามบึ้งตึงมีออร่าบางอย่างที่ทำให้เด็กหนุ่มที่กำลังมองอยู่อดไม่ได้ที่จะกลัวขึ้นมา
ร่างกายนี้...ไม่ใช่ของเขา...
แต่สิ่งที่สะท้อนอยู่ในแววตาทำให้หยางหยางรู้ว่า เขายังเป็นหยางหยาง
แต่เพียงร่างกายนี้ไม่ใช่ของเขา...
และเขาก็ยังไม่รู้ว่าจะทำให้เขากลับเป็นหยางหยางได้ยังไง..
..สงสัยต้องลองตบให้ตื่นซักที...
คิดได้ดังนั้นก็ยกมือขึ้นฟาดหน้าตัวเองซะเต็มแรง
แต่ภาพที่สะท้อนอยู่ตรงหน้าก็ไม่ได้หายไป จึงออกแรงตบหน้าตัวเองอีกครั้ง
“โอ้ย..เจ็บ..” แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีท่าทางจะตื่นจากฝันนี้ซักที
เลยตัดใจ พยายามยอมรับเรื่องแปลกๆที่เกิดขึ้นกับตัวเองในตอนนี้
สรุปง่ายๆคือ เขาหลงเข้ามาในโลกของนิยาย..?
โดยที่ตัวของเขากลายเป็นผู้ดำเนินเรื่องอย่างนั้นหรอ?
ว่าแต่...อู๋เสียดำเนินเรื่องถึงไหนแล้วล่ะ?
คิดได้ดังนั้นก็พยายามหาสมุดจดที่น่าจะจดบันทึกเรื่องราวต่างๆไว้
ก่อนที่จะไปพบกับสมุดเล่มหนึ่งที่วางอยู่ตรงหัวเตียง หยางหยางในร่างอู๋เสียจึงรีบเปิดดูทันทีว่าเป็นสิ่งที่ตนกำลังหาอยู่หรือไม่
แล้วก็ต้องถอนหายใจอย่างโล่งอก
เมื่อพบว่ามันเป็นสมุดบันทึกเรื่องราวของอู๋เสียจริงๆ
แต่เป็นเรื่องราวที่ผ่านมาแล้วร่วมสิบกว่าปี..
..พระโพธิสัตว์ครับ...สาบานสิว่าคนแต่งไม่ได้เกลียดผม..เพราะก่อนที่ผมจะหลุดเข้ามาในโลกบ้าๆนี้
ผมเพิ่งอ่านเล่มหนึ่งไปได้แค่สามในสี่..
..แถมยังจำได้ว่า อ่านถึงตอนที่เจอผีผู้หญิงผมยาวอะไรนี่เอง...
..แล้วเขาต้องมานั่งทำความเข้าใจระยะเวลาตั้งสิบกว่าปี..ภายในเวลาสั้นๆก่อนที่นายเสี่ยวเกออะไรนั่นกับนายอ้วนจะเข้ามาอีกรอบใช่มั้ย...
..แม่ครับ...มาเอาตัวผมไปออกจากโลกบ้าๆนี่ทีเถอะครับ!!!
.
.
.
.
.
.
.
“เทียนเจิน ซุปร้อนๆมาแล้ว!!” เสียงพูดดังลั่นของนายอ้วนดังขึ้น
พร้อมกับประตูที่ถูกเปิดออกหลังจากหนึ่งชั่วโมงถัดไป
ทำให้หยางหยางในร่างชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะสะดุ้งขึ้นมา
“อ่ะ...อื้อ...ขอบคุณนะ” หยางหยางตอบ
พลางไปรับถ้วยซุปมาจากมือของอีกฝ่าย
..นี่สินะ...ซุปปลาที่เลืองชื่อของนายอ้วนหวัง
ที่นายน้อยสามอธิบายถึงมันมากมายว่าอร่อยจนคิดว่าจะหากินที่ไหนในโลกนี้ไม่ได้อีกแล้ว
เทียนเจินในสายตาของเสี่ยอ้วนค่อยๆยกช้อนเพื่อตัวซุปขึ้นกิน
รสชาติของซุปแผ่กระจายทั่วปากของคนที่นั่งอยู่บนเตียง
ก่อนที่จะหลุดเสียงพูดออกมาเบาๆ
“อร่อย...”
“ใช่มั้ยล่ะ ฝีมือเสี่ยอ้วนไม่ค่อยตกลงอยู่แล้วไม่ว่าผ่านมาอีกกี่ปี!
นี่เห็นว่าเทียนเจินไม่สบายหรอกนะ เสี่ยเลยจัดการไปหาปลามาต้มให้น่ะ”
“ขอบคุณนะ..” เสียงพูดเบาๆทำให้เสี่ยอ้วนอดไม่ได้ที่จะแปลกใจ
แต่กระนั้นมือหนาก็เลื่อนไปตบบ่าปุๆของเทียนเจินเบาๆ “หายไวๆล่ะ!”
พูดจบก็เดินออกจากห้องไป ปล่อยให้หยางหยางนั่งงงอยู่แบบนั้น
ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นชายหนุ่มในชุดสีเข้มที่กำลังยืนอยู่ใกล้ๆกับประตูห้อง
“มีอะไรหรือเปล่า...?” ร่างของอู๋เสียเอ่ยถาม
ทำให้ดวงตาคมหันมาสนใจอีกฝ่าย ก่อนที่คนพูดน้อยจะตัดสินใจเปิดปากพูดออกมาบ้าง
“นาย...เป็นใครกันแน่?”
-----------------------------------------------------2BC-------------------------------------------------------------------------------
เหมือนกำลังหางานให้ตัวเองโดยการผูกปมแปลกๆ ฮ่าาาาา
ไว้เจอกันอีกทีวันพฤหัสนะคะ ^^