วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2558

[[Kylin and the sheep]] Yangyang in wonderland [ep.1]

Yangyang in wonderland


Pairing : กิเลนแกะ


Note : เนื้อเรื่องตามชื่อเรื่องเลยค่ะ (..............)  


เนื้อหาเกี่ยวกับ ชาย ชาย นะคะ ถ้าไม่ชอบแนะนำให้กดออกไปเลยค่ะ 




“เหมือนนาย............?” เสียงทุ้มต่ำอย่างที่หยางหยางได้ยินในทุกๆวันเอ่ยทวน คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนที่มือหนาจะเลื่อนมาวางบนเส้นผมสีน้ำตาลของคนที่นั่งอยู่บนเตียง “หัวนาย....ไม่ได้ไปกระแทกอะไรมานะ..”



“เสี่ยวเกอ เทียนเจินตื่นแล้วหร๊ออออออ” เสียงโวยวายดังขึ้นพร้อมกับร่างของชายตัวอ้วนที่เดินเข้ามา ในช่วงวินาทีมือหนาที่จับหัวของคนที่เพิ่งฟื้นก็ละออกไปอย่างรวดเร็ว “เป็นยังไงบ้างเทียนเจิน นายน่ะหลับไปเกือบวันเลยนะ!



“อ่า....” คนที่เพิ่งฟื้นอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงออกมาอย่างงงงวยว่าสรุปตอนนี้เรื่องเป็นยังไงกันแน่ แต่ดูเหมือนว่า คนที่อยู่ในฮู๊ดสีน้ำเงินนั้นจะอ่านอะไรบางอย่างออก จากนัยน์ตาของ อู๋เสียตรงหน้าของตัวเองออก จึงตัดสินใจเดินออกจากห้องไป โดยที่ไม่ลืมที่จะลากชายตัวอ้วนออกไปด้วย



เมื่อทุกคนออกไปแล้ว คนที่นั่งบนเตียงจึงค่อยๆใช้สายตาสำรวจร่างกายตัวเองทีละน้อย..แล้วก็พบว่า ตนเองอยู่ในชุดลำลองแบบสบายๆ พร้อมกับผ้าห่มหนึ่งผืน ตามร่างกายไม่มีอะไรแปลกๆนอกจากรอยแผลเป็นที่ดูราวกับถูกกรีดด้วยของมีคมเป็นจำนวนมาก..แม้จะเกิดความสงสัย แต่หยางหยางก็ยังไม่สามารถประติดประต่อเรื่องราวได้ ก่อนที่จะกวาดสายตาไปมองรอบๆห้องก็พบกับสภาพบ้าน ที่ตกแต่งราวกับอยู่ในชนบท..



...นี่...เขามาอยู่ที่ไหน?... แล้วคนพวกนั้นคือใคร..?



เด็กหนุ่มกำลังเรียบเรียงความทรงจำในสมอง...พลางนึกไปถึงนิยายที่อ่านก่อนที่จะสลบไปแล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่า เสี่ยอ้วน นี่คือหนึ่งในตัวละคร..ส่วนเสี่ยวเกอก็ใช่เหมือนกัน..ว่าแต่ถ้ามีสองคนนี้แล้ว แล้วอู๋เสีย...หายไปไหนกันล่ะ?



เพียงคิดได้แค่นั้น ร่างที่นั่งอยู่บนเตียงก็รีบพาตัวเองไปหากระจกที่ถูกติดอยู่ที่มุมห้องทันที และเมื่อเห็นภาพที่สะท้อนบนกระจกนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะร้องลั่นด้วยความตกใจออกมา เพราะนั่นดันไม่ใช่ใบหน้าของหยางหยางที่เขาเห็นอยู่ทุกวัน แต่กลับกลายเป็นใบหน้าของคนที่เขาไม่รู้จัก...



หรือว่าเขาอาจจะรู้จักอีกฝ่ายในฐานะดาราชื่อดังประจำชาติที่เดินไปทางไหนก็เจอ...



มือเรียวเลื่อนไปสัมผัสบริเวณกระจกอย่างแผ่วเบาราวกับกลัวว่ามันจะแตกสลาย ภาพชายหนุ่มที่ดูอายุอาราวน่าจะประมาณยี่สิบปลายๆ ใบหน้านั้นในยามบึ้งตึงมีออร่าบางอย่างที่ทำให้เด็กหนุ่มที่กำลังมองอยู่อดไม่ได้ที่จะกลัวขึ้นมา



ร่างกายนี้...ไม่ใช่ของเขา... แต่สิ่งที่สะท้อนอยู่ในแววตาทำให้หยางหยางรู้ว่า เขายังเป็นหยางหยาง แต่เพียงร่างกายนี้ไม่ใช่ของเขา... และเขาก็ยังไม่รู้ว่าจะทำให้เขากลับเป็นหยางหยางได้ยังไง..



..สงสัยต้องลองตบให้ตื่นซักที...



คิดได้ดังนั้นก็ยกมือขึ้นฟาดหน้าตัวเองซะเต็มแรง แต่ภาพที่สะท้อนอยู่ตรงหน้าก็ไม่ได้หายไป จึงออกแรงตบหน้าตัวเองอีกครั้ง



“โอ้ย..เจ็บ..” แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีท่าทางจะตื่นจากฝันนี้ซักที เลยตัดใจ พยายามยอมรับเรื่องแปลกๆที่เกิดขึ้นกับตัวเองในตอนนี้



สรุปง่ายๆคือ เขาหลงเข้ามาในโลกของนิยาย..? โดยที่ตัวของเขากลายเป็นผู้ดำเนินเรื่องอย่างนั้นหรอ?



ว่าแต่...อู๋เสียดำเนินเรื่องถึงไหนแล้วล่ะ?



คิดได้ดังนั้นก็พยายามหาสมุดจดที่น่าจะจดบันทึกเรื่องราวต่างๆไว้ ก่อนที่จะไปพบกับสมุดเล่มหนึ่งที่วางอยู่ตรงหัวเตียง หยางหยางในร่างอู๋เสียจึงรีบเปิดดูทันทีว่าเป็นสิ่งที่ตนกำลังหาอยู่หรือไม่ แล้วก็ต้องถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อพบว่ามันเป็นสมุดบันทึกเรื่องราวของอู๋เสียจริงๆ



แต่เป็นเรื่องราวที่ผ่านมาแล้วร่วมสิบกว่าปี..


..พระโพธิสัตว์ครับ...สาบานสิว่าคนแต่งไม่ได้เกลียดผม..เพราะก่อนที่ผมจะหลุดเข้ามาในโลกบ้าๆนี้ ผมเพิ่งอ่านเล่มหนึ่งไปได้แค่สามในสี่..



..แถมยังจำได้ว่า อ่านถึงตอนที่เจอผีผู้หญิงผมยาวอะไรนี่เอง...



..แล้วเขาต้องมานั่งทำความเข้าใจระยะเวลาตั้งสิบกว่าปี..ภายในเวลาสั้นๆก่อนที่นายเสี่ยวเกออะไรนั่นกับนายอ้วนจะเข้ามาอีกรอบใช่มั้ย...



..แม่ครับ...มาเอาตัวผมไปออกจากโลกบ้าๆนี่ทีเถอะครับ!!!



.


.


.


.


.


.


.



“เทียนเจิน ซุปร้อนๆมาแล้ว!!” เสียงพูดดังลั่นของนายอ้วนดังขึ้น พร้อมกับประตูที่ถูกเปิดออกหลังจากหนึ่งชั่วโมงถัดไป ทำให้หยางหยางในร่างชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะสะดุ้งขึ้นมา


“อ่ะ...อื้อ...ขอบคุณนะ” หยางหยางตอบ พลางไปรับถ้วยซุปมาจากมือของอีกฝ่าย


..นี่สินะ...ซุปปลาที่เลืองชื่อของนายอ้วนหวัง ที่นายน้อยสามอธิบายถึงมันมากมายว่าอร่อยจนคิดว่าจะหากินที่ไหนในโลกนี้ไม่ได้อีกแล้ว



เทียนเจินในสายตาของเสี่ยอ้วนค่อยๆยกช้อนเพื่อตัวซุปขึ้นกิน รสชาติของซุปแผ่กระจายทั่วปากของคนที่นั่งอยู่บนเตียง ก่อนที่จะหลุดเสียงพูดออกมาเบาๆ



“อร่อย...”



“ใช่มั้ยล่ะ ฝีมือเสี่ยอ้วนไม่ค่อยตกลงอยู่แล้วไม่ว่าผ่านมาอีกกี่ปี! นี่เห็นว่าเทียนเจินไม่สบายหรอกนะ เสี่ยเลยจัดการไปหาปลามาต้มให้น่ะ”



“ขอบคุณนะ..” เสียงพูดเบาๆทำให้เสี่ยอ้วนอดไม่ได้ที่จะแปลกใจ แต่กระนั้นมือหนาก็เลื่อนไปตบบ่าปุๆของเทียนเจินเบาๆ “หายไวๆล่ะ!



พูดจบก็เดินออกจากห้องไป ปล่อยให้หยางหยางนั่งงงอยู่แบบนั้น ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นชายหนุ่มในชุดสีเข้มที่กำลังยืนอยู่ใกล้ๆกับประตูห้อง



“มีอะไรหรือเปล่า...?” ร่างของอู๋เสียเอ่ยถาม ทำให้ดวงตาคมหันมาสนใจอีกฝ่าย ก่อนที่คนพูดน้อยจะตัดสินใจเปิดปากพูดออกมาบ้าง



“นาย...เป็นใครกันแน่?” 


-----------------------------------------------------2BC-------------------------------------------------------------------------------

เหมือนกำลังหางานให้ตัวเองโดยการผูกปมแปลกๆ ฮ่าาาาา

ไว้เจอกันอีกทีวันพฤหัสนะคะ ^^ 

วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2558

[[Kylin and the sheep]] Yangyang in wonderland [Intro]

Yangyang in wonderland


Pairing : กิเลนแกะ


Note : เนื้อเรื่องตามชื่อเรื่องเลยค่ะ (..............)  



เนื้อหาเกี่ยวกับ ชาย ชาย นะคะ ถ้าไม่ชอบแนะนำให้กดออกไปเลยค่ะ 




“นิยายเรื่องบันทึกจอมโจรแห่งสุสานหรอ...” เสียงทุ้มต่ำพูดพึมพำเบาๆกับหน้าจอคอมของตน พลางคลิกเม้าส์ให้เลื่อนลงเพื่ออ่านเนื้อหาส่วนอื่น นัยน์ตาสีดำสนิทภายใต้เรือนแว่นสีดำกำลังจับต้องตัวหนังสือพวกนั้น


“หยางหยาง...กินข้าวได้แล้วลูก” เสียงของผู้เป็นแม่ตะโกนขึ้นมาจากชั้นล่างของบ้าน ทำให้คนที่กำลังจับจ้องหน้าจอคอมอยู่ละสายตาออกจากสิ่งที่สนใจอยู่ แล้วเดินลงไปชั้นล่างของบ้าน


“แม่ครับ...” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกผู้เป็นแม่ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของตนเอง


“หือ? มีอะไรหรอจ๊ะ..”


“แม่หรือพ่อเคยซื้อหนังสือเรื่องบันทึกจอมโจรแห่งสุสานไว้หรือเปล่าครับ?” เด็กหนุ่มเอ่ยถาม พลางคีบอาหารเข้าปากหลังจากที่ถามจบ


“ก็...มีอยู่นะ..แต่มันก็ตั้งนานแล้วนี่...แม่คิดว่าคงอยู่ในห้องเก็บหนังสือของพ่อเขาน่ะจ๊ะ ทำไมหรอ?”


“พอดีว่าต้องทำรายงานเรื่องนี้น่ะครับ..”


“อ่า..เหนื่อยหน่อยนะจ๊ะ เรียกเอกวรรณกรรมก็แบบนี้แหละ จะว่าไปต้องใช้เวลาอ่านเก้าเล่มภายในไม่กี่วันก็ดูจะเร่งรัดไปใช่มั้ยล่ะ?” เสียงหวานของผู้เป็นแม่เอ่ยถาม “วันนี้พ่อก็ไม่กลับบ้านซะด้วยสิ... อืม...เดี๋ยวแม่ไปหาให้แล้วกันนะ”


“เอ๊ะ ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จผมไปหามาอ่านเองก็ได้ครับ” หยางหยางเอ่ยบอก พลางรีบทานอาหารที่อยู่ตรงหน้าให้หมดอย่างรวดเร็ว “อิ่มแล้วครับ..ขอบคุณมากนะครับ”


“แหม ทานไม่เหลือแบบนี้ แม่ดีใจจริงๆ อย่าหักโหมในการอ่านหนังสือมากนะลูก” ผู้เป็นแม่เอ่ยบอก พลางขยับยิ้มหวานส่งให้ ซึ่งหยางหยางก็ยิ้มรับ ก่อนที่จะก้าวไปยังห้องหนังสือของผู้เป็นพ่อ ที่อยู่มุมในสุดของบ้านทันที


แอ๊ด....


เสียงประตูไม้ถูกเปิดขึ้นพร้อมกับหนังสือจำนวนมหาศาลตรงหน้าที่ปรากฎขึ้นในสายตา ทำเอาเด็กหนุ่มถึงกับต้องอุทานออกมาอย่างประหลาดใจไม่ได้


เพราะไม่คิดว่าผู้เป็นพ่อของตนจะสะสมหนังสือไว้ขนาดนี้


..ว่าแต่หนังสือเยอะขนาดนี้ จะให้เขาเริ่มหาจากตรงไหนล่ะเนี่ย..


คิดได้ดังนั้น หยางหยางก็กวาดสายตามองดูรอบๆห้อง เพื่อหาหนังสือที่ต้องการ


แต่เหมือนว่าโชคจะเข้าข้างเพราะไม่นานเขาก็พบเจอหนังสือที่ตามหา มือเรียวจัดการยกหนังสือข้างๆตัวที่วางระเกะระกะอยู่ออก เพื่อสร้างเป็นที่นั่งของตนเอง ก่อนที่จะจัดการฝังตัวเองลงสู่โลกของหนังสือช้าๆ


นัยน์ตาสีดำสนิทกวาดสายตาผ่านทุกบรรทัดของหนังสือในมือ เพื่อจำความเข้าใจและจับจุดต่างๆภายในหนังสือ และได้ทราบว่า ตัวละครที่กำลังดำเนินเรื่องอยู่ นั้นอยู่ อู๋เสีย ผู้เป็นนายน้อยแห่งตระกูลสาม และมีเพื่อนที่ดูจะเกาะกลุ่มกันไปด้วยอย่างเสี่ยอ้วน ที่ดูขี้โวยวาย และเสี่ยวเกอ หรือนายเมินโหยวผิงที่ดูจะสารพัดประโยชน์ซะเหลือเกิน...


หยางหยางยังคงนั่งอ่านหนังสืออยู่อย่างนั้นจนเวลาผ่านไปร่วมหนึ่งชั่วโมงก็เกิดอาการปวดเนื้อปวดตัวขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะขยับตัวไปมา เพื่อคลายเส้น แต่ด้วยความไม่ระวังนั่นเอง ทำให้หนังสือเล่มหนาที่ถูกกองอยู่ตกลงมากระแทกกับหัว ทำให้เด็กหนุ่มสลบลงไปอย่างช่วยไม่ได้


.


.


.


.


.


.


“....นี่! เทียนเจินยังไม่ตื่นขึ้นมาอีกหรอ” เสียงใหญ่ๆโวยวายขึ้นมา ทำให้คนที่นอนอยู่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกรำคาญขึ้นมาน้อยๆ


“....”


“เออๆ รู้แล้วน่า เดี๋ยวจะลองไปทำซุปหัวปลาอร่อยๆไว้ต้อนรับหมอนั่นตอนตื่นแล้วกัน นายก็เฝ้าเทียนเจินต่อไปแล้วกันนะ เสี่ยวเกอ” เสียงนั้นยังคงดังขึ้นอีก พร้อมกับเสียงปิดประตูเบาๆ และนั่นเองที่ทำให้คนที่นอนอยู่อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเข้าหากัน


เทียนเจินคือใคร...? แล้วเสี่ยวเกอล่ะ...?


“ถ้าตื่นแล้วก็ลุกได้แล้ว...” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยบอก นั่นเองที่ทำให้คนที่นอนอยู่ต้องค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ ก่อนที่จะได้ตื่นเต็มตาเมื่อเห็นหน้าอีกฝ่ายชัดๆ


“หะ...หะ...หะ...เห้ยยย!!! นะ...นะ...นายเป็นใครน่ะ ทำไมหน้าเหมือนฉันได้ขนาดนี้!!!






----------------------------------------------------2BC--------------------------------------------------------------------

เจอกันใหม่ เมื่อชาติต้องการค่ะ /โบกผ้าเช็ดหน้า 

วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2558

[YangFeng Fan-fiction] ว่าด้วยเรื่องข้อมือ

ว่าด้วยเรื่องข้อมือ


Pairing : YangFeng 


Note : เหมือนจะเป็นรีเควสกลายๆ แฮร่ ลงไปแล้วในทวิตลองเกอร์นะคะ 



เนื้อหาเกี่ยวกับ ชาย X ชาย นะคะ ถ้าไม่ชอบแนะนำให้กดออกไปเลยค่ะ 




เจ้าของใบหน้าหวานที่กำลังนั่งอยู่หน้ากระจกภายในห้องแต่งตัวกำลังพลิกฝ่ามือของตัวเองไปมา เพื่อสังเกตนิ้วของตนเอง พลางนึกถึงคำพูดที่บรรดาพี่ๆพูดกันในกองถ่าย เมื่อทุกคนพร้อมใจกันเอ่ยชมเจ้าน้องเล็กที่ได้รับบทเป็นจางฉี่หลิงในนิยายดังของประเทศ


ทำไมทุกคนถึงชมว่านิ้วของหมอนั่นสวยกันนะ ทั้งๆที่ก็ดูไม่ได้แตกต่างจากของเขาแท้ๆ


แอ๊ด....


เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับเจ้าเด็กที่เพิ่งคิดถึงเมื่อครู่ก้าวเข้ามา ใบหน้าคมคายขยับยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าเจ้าของฉายาเทพบุตรแห่งชาติกำลังนั่งอยู่ในห้อง


“ไม่ไปไหนหรอครับ เฟิงเฟิง” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถาม พลางทิ้งตัวลงนั่งข้างๆอีกฝ่าย


“ไม่ล่ะ ข้างนอกร้อน กว่าจะเข้าฉากอีกทีก็ตั้งนาน หลบมาอยู่ในนี้ดีกว่าน่ะ” เสียงหวานตอบ แต่ยังไม่หยุดสังเกตนิ้วมือของตัวเอง โดยไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังลอบมองท่าทางของเจ้าของใบหน้าน่ารักผ่านทางกระจกอยู่เงียบๆ


“นี่..” เสียงหวานเอ่ยเรียก ทำให้คนที่กำลังจ้องอีกฝ่ายผ่านทางกระจกอยู่ อดไม่ได้ที่จะหันไปมองอีกฝ่าย “ขอมือหน่อยสิ”


“ผมไม่ใช่หมานะครับ..” เสียงทุ้มต่ำบอก แต่ก็ยื่นมือให้อย่างว่าง่าย ก่อนที่จะต้องสะดุ้งน้อยๆเมื่ออีกฝ่ายคว้ามือของตนไปจับไว้แน่นแล้วใช้ดวงตากลมตัวนั้นสำรวจมือเขาอย่างฉงนสงสัย ราวกับมันเป็นสิ่งแปลกปลอมจากต่างดาวมาก็ไม่ปาน


“รู้แล้วล่ะน่ะ ไอ้แกะบ้า”


หยางหยางนั่งมองคนที่กำลังสำรวจมือของตนเองอย่างรู้สึกมีความสุข กับท่าทางนั้น ก่อนที่อีกฝ่ายจะปล่อยมือเขาให้เป็นอิสระ


“มือนายนี่มันก็เฉยๆ ไม่เห็นสวยอะไรเลย..” พูดจบก็ยกมือตัวเองขึ้นจ้อง “มือฉันยังสวยกว่าตั้งเยอะ”


เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดอย่างนั้น หยางหยางก็เลยจับมืออีกฝ่ายมานั่งจ้องบ้าง ซึ่งอีกฝ่ายก็ให้ความร่วมมืออย่างดี โดยไม่รู้เลยว่าได้ตกลงหลุมกับดักซะแล้ว เพราะทันทีที่ยื่นให้ เจ้าแกะแสนซื่อนั้นกลับจับมือเขาไว้แน่น ก่อนที่ใบหน้าหล่อจะก้มลงมาชิดบริเวณข้อมือ


พร้อมกับสัมผัสแผ่วเบาจะเกิดขึ้นบริเวณข้อมือ


“ทะ...ทำอะไรน่ะ!!! เสียงหวานโวยวายพร้อมกับชักมือกลับทันที และท่าทางนั้นเองที่ทำให้เจ้าหมาป่าในคราบแกะขยับยิ้มกว้าง


“ไม่มีอะไรหรอกครับ ได้เวลาเข้าฉากของผมแล้ว ไปก่อนนะครับ เฟิงเฟิง”


“โอ้ยย ไอ้หยางหยางงงงงง กลับมาพูดกันให้รู้เรื่องก่อนนะเว้ย ฟหด้วง่าสเงสา” 




---------------------------------see you next entry-------------------------------------------------------