Pairing : จางฟู่กวาน X ฉีเถียจุ่ย
Note : แต่งฉลองโน๊ตบุ๊คใหม่ค่ะ เย้!
ชื่อตัวละครได้มาจากแท็กในทวิตนะคะ
ชื่อรองผู้การเราให้เครดิตแด่คุณ @kirahime_iero (https://twitter.com/kirahime_iero/status/751349426333949953) เต็มๆเลยค่ะ ขออนุญาตมาไว้นะที่นี้ด้วยนะคะ
ป.ล. กาวเต็มเรื่องมากมายเลยค่ะ....
เนื้อหาเกี่ยวกับ ชาย X ชาย นะคะ ถ้าไม่ชอบแนะนำให้กดออกไปเลยค่ะ
--------------------------------------------------------------------------------
“ปาเหยีย แย่แล้ว”
เสียงโวยวายของนายทหารทั้งหลายที่พร้อมใจกันบุกเข้ามาถึงบ้านของเจ้าบ้านฉีที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องรับแขกในบ้านอย่างมีความสุข
ฉีเถียจุ่ยหันไปมองหน้าบรรดานายทหารที่บุกเข้ามาด้วยความฉงนงงงวยเนื่องจากโดยปกตินั้นคนที่บุกเข้ามาจะเป็นจางฉี่ซานหรือจางฟู่กวานเท่านั้น
แต่ในตอนนี้ฝอเหยียไม่ได้อยู่ในตัวเมืองฉางซาแล้วทำไมนายทหารพวกนี้ถึงได้พุ่งมาหาเขาล่ะ?
ถ้ามีพวกญี่ปุ่นบุกมาควรไปแจ้งเจ้าบ้านสองหรือสามแทนบ้านแปดอย่างเขามากกว่ามิใช่หรือ?
“เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ?” ปาเหยียถามด้วยความสงสัย
พลางชะเง้อคอมองหานายทหารหนุ่มที่มักจะเป็นคนโผล่มายียวนตนก่อนที่จะได้คุยงานต่างๆเสมอ
“จางฟู่กวาน....จางฟู่กวานเขา....”
เสียงของนายทหารสกุลจางตะกุกตะกักราวกับไม่รู้ว่าจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไรดี
“เกิดอะไรขึ้นกับจางฟู่กวาน?” ดวงตาภายใต้กรอบแว่นเริ่มแสดงถึงความกังวล
ก่อนที่จะมีนายทหารอีกคนหนึ่งเดินเข้ามา พร้อมกับอุ้มเด็กชายตัวน้อยเข้ามาด้วย
“อ่ะ...เอ๋? เขาไปทำสาวบ้านไหนท้องอย่างนั้นหรือ? แล้วทำไมถึงอุ้มมาหาข้ากันเล่า?
หรือจางฟู่กวานไม่ยอมรับการเป็นพ่อเด็ก เจ้านั่นมัน..ชั่วช้าจริงๆ
ข้าจะไปเรียกร้องความยุติธรรมในสาวน้อยนางนั้นเอง!”
“ม่ะ...ไม่ใช่อย่างนั้นนะขอรับ
ปาเหยีย....แต่...แต่พวกข้าคิดว่า...เด็กตรงหน้าคนนี้คือ...จางฟู่กวานน่ะครับ”
“เหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหห???????????????????????”
.
.
.
จากการที่ได้ฟังความจากบรรดาทหารที่ยังตื่นตระหนกอยู่นั้นก็ได้ความว่า
รองผู้การจางนั้นได้รับคำสั่งให้ไปสำรวจพื้นที่ที่ไม่ไกลจากฉางซาเท่าไหร่
โดยตอนที่ทำการสำรวจนั้น จางฟู่กวานได้ทำการลงไปสำรวจในถ้ำก่อนบรรดาผู้ติดตาม
แต่เนื่องจากหายไปนานจนทุกคนเป็นห่วง ทำให้มีคนลงไปตาม
และก็พบเด็กคนนี้กำลังนั่งอยู่ โดยสวมชุดของรองหัวหน้าของพวกตน
เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันแบบนี้เกิดขึ้น
ทำเอานายทหารทั้งหลายเกิดอาการทำตัวไม่ถูก
เพราะกว่าจะหาคนสื่อสารหาฝอเหยียได้ก็คงต้องใช้เวลาเป็นวัน
เนื่องจากผู้เป็นนายติดการทำภารกิจอยู่ต่างเมือง พวกนั้นจึงได้ข้อสรุปแล้วนำรองผู้การจิ๋วของตนมาฝากไว้กับเขา
“ฟู่กวาน...”
เจ้าบ้านแปดเรียกเด็กชายที่กำลังนั่งนิ่งๆอยู่บนเตียงของตนแบบไม่ไหวติง
แผ่นหลังเล็กเหยียดตรงพร้อมกับใบหน้าที่มีเค้าโครงดูดีเชิดสูงขึ้นเล็กน้อย
“ข้าไม่ใช่ท่านรอง ความสามารถของข้ายังมีไม่ถึงถึงขนาดนั้น...”
เด็กน้อยเอ่ยปากตอบ ทำให้คนฟังอดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างเอ็นดู
“อย่างนั้นหรือ...แต่ข้ายังไม่รู้จักชื่อเจ้าเลย..
เจ้าชื่ออะไรกันล่ะ”
“แล้วท่านชื่ออะไรกันล่ะ?” เด็กน้อยถามกลับด้วยคำถาม
ถึงแม้ว่าตนจะยินยอมมาอยู่ ณ ที่แห่งนี้ตามคำขอร้องของบรรดานายทหารบ้านจางก็เถอะ
“ข้าหรือ?” บันฑิตหนุ่มชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง “ข้าชื่อ ฉีเถียจุ่ย
เป็นเจ้าบ้านฉีแห่งฉางซา...”
“ข้าไม่เห็นเคยได้ยินชื่อท่านมาก่อนเลย..”
เด็กน้อยจางฟู่กวานยังคงบอกต่อ
“แล้วสรุปเจ้าชื่ออะไรล่ะ?”
“จางรื่อซาน...” เด็กน้อยตอบพลางยืนไหล่ให้ตรงกว่าเดิม
“ทุกคนกล่าวมาว่านอกจากฝอเหยีย ข้าในวัยหนุ่มสนิทกับท่านที่สุด จริงหรือ?”
คำถามที่ไม่สมวัยถูกส่งออกมา ทำให้คนฟังอดไมได้ที่จะหัวเราะแห้งๆออกมา
บ้านจางนี่สอนเด็กกันยังไง ไม่มีวัยเด็กเลยใช่ไหม
แถมพอโตเป็นผู้ใหญ่แล้วยังขี้ยียวนอีกด้วยนะ
“ก็คงจะเป็นอย่างนั้น...” เจ้าบ้านแปดตอบพลางขยับเข้าไปใกล้
“งั้นท่านช่วยบอกหน่อยสิ ว่าข้าในตอนที่ได้เป็นรองผู้การนั้น
ข้าเป็นอย่างไรบ้าง....”
นัยน์ตาของเด็กหนุ่มแสดงประกายเล็กๆอย่างภาคภูมิว่าในอนาคตตนต้องเป็นอย่างที่ตนฝันไว้ได้อย่างแน่นอน
“หือ...เจ้าในอนาคตน่ะหรือ...”
ปาเหยียทรุดตัวลงนั่งข้างเด็กหนุ่มพลางทำท่าครุ่นคิด “เป็นนายทหารที่ขี้แกล้ง...ยียวน
กวนประสาท ปากร้าย...”
คำตอบที่ทำให้เด็กตัวน้อยต้องเปลี่ยนท่าทางเป็นนั่งห่อไหล่อย่างช่วยไม่ได้
ใบหน้าอ่อนเยาว์แสดงถึงความผิดหวังน้อยๆ
“แต่ก็...เป็นนายทหารที่ดี พึงพาได้ เด็ดขาด
สมกับเป็นผู้ช่วยของฝอเหยียจริงๆ” พูดจบเจ้
าบ้านแปดก็หันไปมองหน้าเด็กหนุ่มที่อยู่ดีๆก็ยิ้มกว้างขึ้นมา
“ว่าแต่...นี่มันก็ดึกแล้ว นอนเถอะ..” เจ้าบ้านแปดหันมาบอกเด็กหนุ่ม “พรุ่งนี้ฝอเหยียก็คงมารับเจ้ากลับบ้านสกุลจางแล้วล่ะ”
“อืม” เด็กน้อยตอบรับพลางซุกตัวเข้ากับเตียงนอนอย่างรวดเร็ว
จนเถียจุ่ยอดไม่ได้ที่จะขยับยิ้มออกมา
อย่างรู้สึกว่าคิดผิดกับความคิดของตนเมื่อคู่...
ยังไงเด็กก็เป็นเด็กอยู่วันยังค่ำล่ะนะ....
.
.
.
.
เช้าวันต่อมา
“ฮ้าวววว” เจ้าบ้านแปดเอามือป้องปากหาว
ก่อนที่จะเดินเข้ามายังห้องนอนที่เมื่อคืนถูกแขกตัวเล็กยึดไป
“รื่อซาน...ตื่นได้แล้ว”
มือเรียวสวยเลื่อนไปจับตัวคนที่นอนอยู่อย่างงัวเงีย
โดยไม่ได้สังเกตความเปลี่ยนไปของร่างกายคนที่นอนอยู่เลยแม้แต่น้อย
ฟุบ...
“เอ๊ะ” เจ้าบ้านแปดร้องด้วยความตกใจเมื่อถูกดึงให้ตกลงไปนอนกับเตียง
โดยมีเจ้าของใบหน้าหล่อกำลังคร่อมทับอยู่ด้านบนพร้อมกับรอยยิ้มยียวนอย่างที่พบเห็นได้ประจำ
“จะ...จางฟู่กวาน!!”
“อะไรกัน...ไม่เรียกข้าว่ารื่อซานแล้วหรอ...ข้าว่าข้าออกจะชอบนะ
ท่านเถียจุ่ย” รองผู้การจางเอ่ยบอก พลางโน้มหน้าเข้าไปใกล้ขึ้นอีก
“ข้าไม่รังเกียจหรอกนะ..ที่ท่านจะเรียกข้าแบบนั้น..”
“....”
“ทำไมอยู่ดีๆใบหน้าของท่านถึงแดงขึ้นมาอย่างนีเล่า...”
อีกฝ่ายยังคงเอ่ยอย่างยียวน
แต่กลับทำให้คนฟังอย่างจะออกแรงถีบอีกฝ่ายให้ตกเตียงขึ้นมาตงิดๆ
แต่พอจะทำจริงๆกลับถูกอีกฝ่ายกดตัวไว้แน่น แถมใบหน้าหล่อยังขยับเข้ามาใกล้จนแนบชิด
“ท่านหาว่าข้าขี้แกล้ง...งั้นวันนี้ข้าก็ขอแกล้งท่านหน่อยแล้วกัน...”
พูดจบก็จงใจแนบชิดริมฝีปากของตนลงไปบนริมฝีปากบาง
แต่คนที่โดนแกล้งกลับเบี่ยงใบหน้าไปอีกทางซะก่อน
ทำให้กลายเป็นว่าได้สัมผัสกับผิวแก้มแทน
“เดี๋ยวฝอเหยียก็จะมารับเจ้าแล้วไม่ใช่หรือ” เจ้าบ้านแปดถาม
“เรื่องนั้นท่านไม่ต้องห่วง...เมื่อเช้าตรู่ข้าได้แวะไปบ้านสกุลจางเพื่อแจ้งว่าข้ากลับมาแล้ว...”
“....”
“แล้วก็วันนี้ขาก็ลาทั้งวัน
เนื่องจากข้ามีธุระต้องจัดการกับเจ้าบ้านแปดอีกด้วย..”
พูดจบริมฝีปากของคนพูดก็ไล้ไปตามลำคอขาว
“ดะ...เดี๋ยวสิ จางฟู่กวาน!!”
สุดท้ายเสียงโวยวายก็กลายเป็นเสียงหวานที่คอยร้องเรียกชื่อคนที่รังแกตนอยู่อย่างนั้นทั้งวัน