คุณชายหยางหยาง VS อาจารย์อี้เฟิง - 03
Pairing : YangFeng
**********
เช้าวันต่อมา
อี้เฟิงเปิดประตูห้องนอนออกมาอย่างไม่เร่งรีบ
หลังจากมองเวลาแล้วในตอนนี้เรียกได้ว่าเช้าตรู่ด้วยซ้ำ
เลยมีความคิดว่าจะสำรวจบ้านหลังนี้ที่ตนเองได้มาอยู่ซะหน่อย
แต่เมื่อเปิดประตูออกมาก็ต้องตกใจ
เมื่อพบชายในชุดสูทสีดำกำลังยืนรออยู่หน้าประตูถึงสองคน
“สวัสดีครับ...คุณอี้เฟิง.. คุณชายส่งมาให้ผมมาดูแลคุณครับ” เสียงนั้นเอ่ยอย่างนอบน้อมพลางโค้งตัวให้
“ผม เจี่ยงจินฟูครับ”
“ผม จางหวินหลงครับ..” นัยน์ตากลมโตมองคนสองคนที่กำลังแนะนำตัวด้วยความสนใจ
เพื่อที่จะจดจำใบหน้าและแยกความแตกต่าง และก็พบว่า จางหวินหลงดูเหมือนจะเป็นชายหนุ่มที่ดูใจดี คงให้ความรู้สึกเหมือนเป็นพี่ชายล่ะมั้ง
ส่วนเจี่ยงจินฟูดูจะเป็นคนขี้เล่น
ให้ความรู้สึกเหมือนเจอหน้าเพื่อนสนิทตอนเข้ามหาวิทยาลัยครั้งแรก
“อ่า..แล้วคุณชายของพวกนายล่ะ?” อาจารย์หนุ่มเอ่ยถามอย่างสงสัยเพราะในเมื่อว่าตอนเช้าตื่นมาแล้วไม่พบกับผู้เป็นเจ้าของบ้านอยู่ส่วนไหนของห้องเลย
“คุณชายออกไปทำงานแต่เช้ามืดแล้วครับ..” จินฟูตอบ
“ส่วนนี่ของคุณครับ”
พลางยื่นกระเป๋าหนังสีน้ำตาลเข้มใบเล็กในเจ้าของใบหน้าสวย
ซึ่งพออี้เฟิงรับมาเปิดดูก็พบว่าเป็นพวกข้าวของที่เขาใช้ในชีวิตประจำวัน
และพวกเอกสารการสอนต่างๆ
“นี่พวกนายไปเอามาจากไหนกัน?”
“คุณชายเป็นคนไปเอามาแล้วฝากพวกผมมาให้ครับ” คราวนี้หวินหลงเป็นคนบอกบ้าง
“ฉันรู้สึกแปลกๆแฮะ
เวลาคุยกับพวกนายแบบนี้...เอาเป็นว่าไม่ต้องเรียกแบบสุภาพได้มั้ย? คุยด้วยแล้วรู้สึกแปลกๆ
ฉันไม่ได้เจ้ายศอะไรขนาดนั้นซะหน่อย” เสียงหวานบอกพลางมองชายในชุดหนุ่มทั้งสอง
“แต่ว่า... / ได้สิ” อี้เฟิงเห็นหวินหลงเอาข้อศอกศอกเข้าที่สีข้างของจินฟูเบาๆ
“นายก็อย่าซีเรียสไปน่า หวินหลง”
“แต่ฉันกลัวว่าคุณชายจะไม่พอใจ..” คนที่ถูกบอกว่าจริงจังเอ่ยอย่างกังวล
“ก็บอกไปสิว่าคุณหญิง..เอ๊ย คุณอี้เฟิงไม่ชอบ..”
“แต่ว่า...”
“เออน่ะ เดี๋ยวฉันช่วยพูดเอง”
“ถ้าลำบากใจเดี๋ยวฉันช่วยพูดให้ด้วยก็ได้นะ..” เจ้าของใบหน้าหวานบอก
หลังจากเห็นสองหนุ่มเถียงกันอยู่ซักพัก
ก่อนที่เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์มือถือจะดังขึ้น ทำให้บทสนทนาถูกขัดไปชั่วคราว
อี้เฟิงเลื่อนไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเองที่ร้องลั่นไม่หยุดออกมา
“อ่า..โทษทีๆ
พอดีมันแจ้งเตือนว่าวันนี้มีคลาสเรียนเช้าน่ะ”
“นี่คุณยังใช้โทรศัพท์รุ่นเก่ากึกอย่างนั้นอยู่อีกหรอ...” จินฟูถามอย่างแปลกใจ
“ให้ตายสิ
ในทีมเรายังไม่มีคนคิดจะใช้เลยนะ” คำพูดนั่นเองที่ทำให้ดวงตากลมโตตวัดมามองอย่างค้อนๆ
“ทำไงได้ล่ะ ฉันไม่ได้รวยเหมือนเจ้านายของนายซักหน่อยนิ..”
“เอ้ย อย่าเพิ่งโกรธกันสิครับ..ผมแค่พูดเล่นเฉยๆเอง..”
“พอเลย..ฉันไม่พูดกับพวกนายแล้ว ยิ่งคุยด้วยแล้วยิ่งหงุดหงิด..”
พูดจบก็ก้าวเดินฉับๆไปอีกทาง
โดยไม่สนใจว่าตัวเองจะรู้ทางหรือไม่
“นี่คุณอี้เฟิง คุณจะไปไหนน่ะ” จินฟูถาม พร้อมกับเดินตามผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนายใหม่ของตน
“ปากนายพาจนแท้ๆ จินฟู...” หวินหลงกย้ำ แต่กระนั้นก็ยังคงเดินตามมา
“ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ คุณจะสั่งให้ผมทำอะไรก็ได้จริงๆ
ได้โปรดล่ะ..”
“จริงหรอ..” เมื่อได้ยินดังนั้นเจ้าของใบหน้าหวานก็หยุดเดินและพลิกตัวกลับมายิ้มหวานให้ทั้งสองคนแบบไม่บอกไม่กล่าว
ทำให้บอดี้การ์ดหนุ่มทั้งสองถึงกับชะงักกึกไป
เนื่องจากรู้สึกถึงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่อีกฝ่ายกำลังส่งมาให้
“งั้นก็....................” ยังไม่ทันที่อี้เฟิงจะบอกสิ่งที่ตัวเองต้องการ
ก็มีเสียงดังขึ้นมาขัดจังหัวซะก่อน
“โฮ่ง!!” พร้อมกับแรงที่กระแทกเข้ามากับด้านหลังจนอาจารย์หนุ่มลงไปกองกับพื้น
“โฮ่งๆ”
“อะไรกันเนี่ย...” อี้เฟิงโวยวายพร้อมกับหันไปมองเจ้าตัวที่ทับตนเองอยู่
ก็พบโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวใหญ่ที่กำลังแลบลิ้นมองหน้าเขาอยู่
“ชงไฉ่...อ้าว... ทำไมพี่มานอนกองอยู่ตรงนี้ให้ชงไฉ่นอนทับล่ะครับ..”
เสียงทุ้มต่ำของหยางหยางที่ดังมาจากไม่ไกลเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“จินฟู นายแกล้งพี่อี้เฟิงงั้นหรอ..?”
“พี่อี้เฟิง?” จินฟูทวนก่อนที่จะเลิกคิ้วนิดหน่อย “ไม่อ่ะ
ฉันไม่รู้จะแกล้งทำไม คุณพี่ของนายต่างหากที่ยืนอยู่ดีๆก็โดนชงไฉ่ชนจนล้มน่ะ..”
“เรียกว่าชนไม่ได้ด้วยซ้ำ เรียกว่ากระแทกจนล้มต่างหาก..” หวินหลงบอกต่อ
พลางปรบมือเบาๆ “ชงไฉ่มานี่สิๆ”
คำพูดที่ดูสนิทสนมทำให้คนที่ถูกพาดพิงอดไม่ได้ที่จะสงสัยขึ้นมาว่า
ในยุคนี้เจ้านายกับลูกน้องนี่คุยกันแบบนี้หรอ..ดูจะสนิทกันเกินไปหรือเปล่า ...
ไม่สิ..ไม่ใช่คำว่าสนิท ต้องบอกว่าจะเล่นหัวได้แล้วมากกว่าต่างหาก
“ทำไมพวกนายดูสนิทกันแบบนี้เนี่ย...” อี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามอย่างแปลกใจ..
เพราะหลังจากที่ชงไฉ่ผละออกจากตนไปแล้ว ก็พบว่าทั้งสามกำลังขยับยิ้มให้กันอยู่
“ก็เป็นเพื่อนกันมาน่ะครับ / ก็เป็นเพื่อนกันมาน่ะสิ /
อยู่ด้วยกันมานานแล้วน่ะ” หยางหยาง จินฟู และหวินหลงตอบพร้อมกัน
“แล้วพี่เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ?” เสียงทุ้มต่ำถาม
พลางยื่นมือมาเพื่อดึงให้คนที่ได้ชื่อว่าคู่ชีวิตของตัวเองยืนขึ้น
แต่อี้เฟิงก็กลับทำเป็นเมินและลุกขึ้นมายืนเอง
“นายเพิ่งบอกว่านายเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศไม่ใช่หรอ..? แล้วทำไมยังสนิทกันอยู่ล่ะ?”
เสียงหวานยังคงเอ่ยถาม
แถมยังรู้สึกว่าพอตนเองได้เข้ามาอยู่ในบ้านแห่งนี้นี่ก็ดูให้มีเรื่องแปลกใจเยอะไม่ใช่น้อย
“ก็ไปด้วยกันหมดสินะครับ...แหม่ คุณอี้เฟิงแค่นี้ก็คิดไม่ได้หรอ..” จินฟูยังคงกวนประสาท
“จินฟู เลิกแกล้งพี่อี้เฟิงได้แล้วน่า..” หยางหยางปราม
ก่อนที่จะหันมามองใบหน้าหวานที่ดูเหมือนจะโกรธขึ้นนิดๆ “จริงๆพวกนี้เป็นเพื่อนผมน่ะครับ...”
“ไม่ใช่แค่เพื่อนนะ..” หวินหลงพูดขัด พลางอมยิ้มน้อยๆ “พ่วงตำแหน่งคนรับใช้ด้วย..”
“ก็แย่และ
ใครบอกว่าฉันเป็นคนรับใช้ไอ้แกะติ๊งต๊องนี่...แค่ฉลาดกว่าหน่อย
อย่ามาบอกว่ามันเป็นเจ้านายนะ” จินฟูโวยวาย
“พอเลย..พวกนาย..ฉันคุยด้วยแล้วปวดหัว..” อี้เฟิงเอ่ยไม่ได้ที่จะเอ่ยขัดขึ้นมา
“สรุปใครจะบอกได้บ้างว่าจริงๆแล้วมันเป็นยังไง..”
“จริงๆแล้วก็.... / เรื่องของเรื่องคือ ฉันกับเทียนฉินเป็นเด็กกำพร้า
ที่พ่อแม่ของไอ้แกะนี่เก็บมาเลี้ยง ด้วยความเกรงใจอย่างหาที่สุดไม่ได้
ทำให้ฉันต้องมาเป็นบอดี้การ์ดดูแลคุณหญิงน้อยของนายท่านทั้งสอง
เพราะพวกท่านส่งพวกฉันเรียนจบจากนอกเหมือนหยางหยาง ถึงแม้จะไม่ได้ปริญญาเอกเท่ากันก็เหอะ..”
ยังไม่ทันที่หยางหยางจะเอ่ยเล่า จินฟูก็เอ่ยปากบอกซะหมด “ถ้าไม่ติดว่าคำสั่งเสียจากคุณท่านยาวเป็นห่างว่าวนะ...ฉันว่าจะขอจบเอกด้วยซะหน่อย”
“ใครใช้ให้นายโง่เองล่ะ..” หวินหลงเยาะเย้ย
“เออใช่สิ..ถ้าฉันโง่ แกก็ฉลาดกว่าฉันนิดเดียวแหละ
เพราะแกเพิ่งจบโทไม่ใช่ไง แต่ไอ้แกะมันจบเอกไปแล้วนะเว้ยย”
“พอๆ พวกนายไม่ต้องมาสาธยายถึงความเก่งความไม่เก่งของพวกนายเลย
ฉันปวดหัว..” เจ้าของใบหน้าหวานเอ่ยบอก พลางคลึงขมับตัวเองเบาๆ
“พี่ไม่สบายหรอครับ?” หยางหยางเอ่ยอย่างเป็นห่วง
ก่อนที่จะเดินเข้ามาใกล้
“ไม่เป็นไร แค่..อ่ะ..เฮ้ยยยยย” ก่อนที่อี้เฟิงจะอุทานออกมาลั่น
เพราะว่าอยู่ดีๆไอ้แกะบ้าก็จับตัวอี้เฟิงอุ้มขึ้นในท่าเจ้าหญิง “ปล่อยฉันนะเว้ยยยยย”
“ไม่ครับ..” เจ้าของใบหน้าหล่อปฏิเสธ
ก่อนที่จะพาคนที่บ่นว่าปวดหัวเดินไปยังทางที่อีกฝ่ายเพิ่งเดินมา
“เห้ย ยังออกจากห้องหอไม่ถึงสองชั่วโมงจะกลับเข้าไปอีกแล้วหรอ ฮ่าๆ
ระวังลูกเต็มบ้านจนคุณท่านตกใจนะเว้ย ไอ้แกะ” เสียงไล่ตามหลังของจินฟู ทำให้คนที่ถูกอุ้มอดไม่ได้ที่จะตะโกนกลับไป
“ไอ้จินฟู ไอ้บ้า ไอ้ฟหกดเสงงงง”
**********
คน ที่บ่นว่าปวดหัว ถูกพาตัวกลับมาวางลงบนเตียงในห้องนอน ก่อนที่เจ้าของใบหน้าหล่อจะนั่งลงข้างๆ มือขาวของหยางหยางเลื่อนไปสัมผัสหน้าผากขาวเนียนนั่นเบาๆ
"ไม่ต้องมาแตะตัวฉันเลย" เสียงหวานเอ่ยอย่างหงุดหงิด
จนคนที่มองอยู่อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากถาม
"พี่ไปหงุดหงิดอะไรมาครับ? หรือหมิงลู่แกล้งอะไรพี่มา บอกผมได้นะ..เดี๋ยวผม..."
"หงุด หงิดนายนั่นแหละโว้ยยย อะไรนักหนา
ฉันดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องคอยให้ใครมาประกบหน้าประกบหลังขนาดนั้นหรอกเฟ้ย" คำพูดบ่นยาวๆของเจ้าของใบหน้าหวานทำให้คนฟังอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
"ขำอะไร.."
"ฮะๆ เปล่านะครับ ผมแค่แปลกใจน่ะ..."
"แปลกใจอะไร.." เสียงหวานถามพร้อมอารมณ์ขุ่นมัวนิดๆ
ไอ้เด็กนี่เอะอะเอะอะก็ขำ พ่อเป็นตลกหรอออออ
"เปล่า ครับ...ส่วนเรื่องคำสั่ง..
สงสัยพี่ต้องไปบอกคนสั่งเอาเองนะครับ เรื่องนี้ผมสั่งหมิงลู่กับเทียนฉินไม่ได้ครับ"
หยางหยางบอก ก่อนที่จะยิ้มออกมาบางๆ "แต่คงต้องลำบากหน่อยนะครับ เพราะคนสั่งเขาอยู่บนฟ้านู่นน"
"ทำไม เขากำลังเดินทางไปไหนหรอไง"
อี้เฟิงถามอย่างงงๆ คนที่สั่งไอ้เจ้าสองตัวกวนประสาทได้นั้นมันเป็นใครฟะ เขาจะไปกราบขอร้องงามๆให้มันเลิกกวนเขาซะที
"โอ้ย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ พี่จะเข้าใจอย่างนั้นก็ได้นะครับ ฮะๆ"
เจ้าของใบหน้าหล่อหัวเราะไม่หยุด จนอี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะโกรธขึ้นมาอีกครั้ง
"โว้ยยยย ฉันไม่คุยกับนายแล้ววววว"
"โอ๋ๆ พี่น้อยใจหรอครับ.."
"ไม่ใช่เว้ยยย แค่คุยกับนายแล้วหงุดหงิด"
"แต่ ผมคุยกับพี่แล้วมีความสุขนะครับ..".หยางหยางบอกพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบ หน้าหวานนั่น ก่อนที่จะจูบเข้าไปเบาๆที่ริมฝีปากบางๆของผู้เป็นพี่
"ขอบคุณนะครับพี่"
"....." ก่อนที่เจ้าของใบหน้าหล่อจะหลุดยิ้มออกมาอีกครั้งเพราะเห็นผู้เป็นพี่นิ่งแข็งเป็นหินไปซะแล้ว
***********
กึก...กึก...กึก...
หลี่อี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะหันไปมองค้อนขวับคนที่ทำให้เกิดเสียงประหลาดนั้น
ก่อนที่จะหลุดพูดออกมาอย่างโมโหใส่คนที่พยายามกลั้นขำอย่างเอาเป็นเอาตายไม่ได้ว่า
“นายจะขำอะไรนักหนาฮะ จินฟู...”
“เปล่าครับ ฮ่ะๆๆๆ โอ้ย ก๊ากกกกกกก”
ยิ่งเสียงหัวเราะนั่นดังขึ้นเท่าไหร่ อาจารย์หนุ่มยิ่งรู้สึกปวดประสาทขึ้นมากเท่านั้น
จนอดไม่ได้ที่จะถีบเข้าที่เบาะของคนที่ขับรถให้ตนอยู่
“นั่งเงียบๆแล้วขับรถต่อไปเถอะ” เสียงหวานโวยวาย
“คร้าบบบบ คร้าบบบ แหม ดุจริง กะอีแค่โดนสามีตัวเองจูบ
ต้องมาทำเป็นโวยวายลั่นบ้านให้รู้ว่าตัวเองถูกจูบด้วย ฮะๆ ทำตัวเป็นสาวน้อยไปได้นะครับ
อาจารยยยยยย์”
“จะหุบปากดีๆหรืออยากได้รองเท้าไปช่วยให้หุบปากได้?”
“โอเคคร้าบ ไม่พูดแล้วๆ” จินฟูเอ่ยอย่างยอมแพ้ พร้อมกับเลี้ยวรถเข้าไปในตัวมหาวิทยาลัยที่อี้เฟิงสอนอยู่
“แล้วไปยังไงต่อล่ะครับ คุณหญิง...”
“ตรงไปก่อน อีกสองแยกค่อยเลี้ยว..” แต่คนที่ตอบกลับไม่ใช่คนที่เอ่ยถาม
แต่เป็นหวินหลงที่นั่งเงียบมานานต่างหาก
“นายรู้ทางได้ยังไงฮะ..” ถึงบ่นแต่จินฟูก็ทำตามที่อีกฝ่ายบอก
“เคยมากับแกะ...” คำตอบสั้นๆง่ายๆที่ทำให้คนขับรถเข้าใจได้
ถึงแม้ว่าอาจารย์หนุ่มจะแอบนิ่งไปซักพักเพราะประมวลผลคำว่าแกะไม่ทันก็เถอะ
เพราะหลังจากที่เทียนฉินพูดมา
เขาดันไปนึกถึงแกะที่มีขนปุบๆขึ้นมาน่ะสิ แล้วก็อดไปคิดไม่ได้ว่า
แกะตัวนั้นมันจะมาทำอะไรที่มหาวิทยาลัย แต่นึกๆไปนึกๆมา ก็จำได้ว่า
พวกนี้มันเรียกเจ้านายตัวเองว่าแกะนี่นะ.....
“จอดๆ จอดส่งตรงนี้แหละ” เสียงหวานเอ่ย
พลางบอกให้บอดี้การ์ดหนุ่มจอดรถหน้าคณะของตน “เดี๋ยวฉันเดินเข้าไปเอง...”
“ได้ยังไงล่ะครับบบบบ เจ้านายผมอุตส่าห์สั่งมาเลยนะ
ว่าให้พาภรรยาสุดที่รักเข้าไปส่งให้ถึงข้างในน่ะครับบบบ” จินฟูบอกพลางเลี้ยวรถเข้าไปในคณะ
“โว้ยยยยยยย ไอ้พวกบ้าเอ้ยยยยยยยยยย
ถ้านายขับรถราคาถูกๆแบบปุถุชนคนธรรมดามา ฉันจะไม่ว่าซักคำเลยเว้ย
แต่นี่แม่งคันล่ะเกือบยี่สิบล้าน..ใครก็สนใจทั้งนั้นสิฟะ”
อาจารย์หนุ่มโวยวายอีกครั้ง แน่ล่ะ ก็ในเมื่อตอนก่อนเขาจะก้าวขึ้นรถเขายังอดไมได้ที่จะขนลุกขนพองขึ้นมา
เพราะว่าดูจากแบรนด์และสภาพของรถที่ยังเป็นรถใหม่ป้ายแดงอยู่เนี่ยสิ เขากลัวว่าพอเขาขึ้นมานี่จะทำให้รถสกปรกหรือเปล่า
เอ๊ะ...แต่ไม่สิ เจ้ารถคันนี้ต้องภูมิใจต่างหาก
ที่ได้คนหล่อๆอย่างหลี่อี้เฟิงขึ้นมานั่งบนรถน่ะ...
พอจินฟูจอดรถลงหน้าอาคาร
เจ้าของใบหน้าหวานก็อดไม่ได้ที่จะก้าวฉับๆเพื่อขึ้นไปยังอาคารเรียนทันที
โดยที่พยายามไม่สนใจบรรดาสายตาของนักศึกษาทั้งหลายที่ดูท่าทางอยากรู้อยากเห็นเหลือเกินว่าใครมาส่งเขา
ณ วันนี้
“เห....นั่นมันรถหรูรุ่นล่าสุดเลยนี่นะ...”
เสียงของเด็กหนุ่มในชุดนักศึกษาหน้าตาดีดังขึ้น
นัยน์ตาสีดำกำลังจับจ้องไปที่รถคันนั้นและคนที่ก้าวลงมาอย่างสนอกสนใจ เพราะเขาค่อนข้างจะเป็นคนที่สนใจรถ
และติดตามข่าวเกี่ยวกับสิ่งของพวกนี้ตลอดเวลา จนแทบจะเรียกได้ว่า ในแผ่นดินจีน
ใครมีรถหรูราคาแพงนั้น เขาจะรู้หมดว่าใครเป็นเจ้าของเนื่องจากเส้นสายของพวกบรรดาที่เล่นรถแบบนี้
และถ้าจำไม่ผิด..เขารู้สึกว่า รถคันนั้นถูกซื้อเข้ามาให้ทายาทเจ้าพ่อนี่นะ...แล้วทำไมอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมดาๆอย่างนี้ถึงลงมาจากมันได้ล่ะเนี่ย
“นั่นมันอาจารย์หลี่อี้เฟิงนิน่า...ทำไมถึงลงมาจากรถหรูขนาดนั้นได้ล่ะเนี่ย..”
เสียงของเพื่อนที่อยู่ข้างๆพูด ทำให้คนที่ฟังอยู่อดไม่ได้ที่จะหันไปให้ความสนใจ
“ทำไมวะ ต้าซวิน..”
“อ้าว ไม่รู้หรอกหรอ เทียนฮ้าว..
ว่าฐานะทางบ้านของอาจารย์เป็นยาจกเลยก็ว่าได้น่ะ แต่ดีที่แกหน้าตาดี
เรียนค่อนข้างจะเก่งแค่นั้นแหละที่สาวๆกรี๊ด” คำพูดที่หลุดออกมาจากปากเพื่อนสนิททำให้ลู่เอินที่ฟังอยู่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสนใจขึ้นมา
....อาจารย์ธรรมดาๆกับรถของคนที่ขึ้นชื่อว่ามีอำนาจมากมายในจีนน่ะหรอ....
น่าสนใจ....ท่าทางเรื่องนี้จะมีตื้นลึกหนาบางให้เขาได้ทำอะไรสนุกๆอีกแน่...
เพียงคิดได้แค่นั้น
ริมฝีปากของเทียนฮ้าวก็อดไม่ได้ที่จะกระตุกยิ้มมุมปากขึ้นมา
...หลังจากนี้คงได้เจอกันหลังจากนี้อีกนานนะ อาจารย์หลี่อี้เฟิง......
**********
เสียงจ๊อกแจ๊กยังคงดังในห้องเลคเชอร์ขนาดใหญ่เฉกเช่นปกติ...ในยามที่อาจารย์เจ้าของรายวิชายังไม่มา
และนั่นเองที่ทำให้อาจารย์หนุ่มที่ยืนอยู่หน้าประตูอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
ว่าแต่..เขารู้สึกไปเองหรือเปล่านะว่า
มันดูเป็นเสียงกรี๊ดกร๊าดของนักศึกษาสาวๆมากกว่าจะเป็นเสียงพูดคุยธรรมดาน่ะ...
คิดได้ดังนั้นมือเรียวก็จัดการเปิดประตูออกและก็พบว่าบรรดานักศึกษาสาวๆกำลังรุมล้อมคนๆหนึ่งอยู่
โดยที่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายเป็นเด็กที่เพิ่งเข้ามาเรียน
เอ๊ะ? เด็กใหม่งั้นหรอ? ย้ายเข้ามาช่วงนี้เนี่ยนะ?
“เห้ยยย อาเจ๊มาแล้ว นั่งๆๆๆ” เสียงของนักศึกษาชายคนหนึ่งตะโกนขึ้น
ทำให้บรรดานักศึกษาทั้งหลายรีบกลับที่ของตนทันที
แต่นั่นก็ทำให้อี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา เพราะคำว่าอาเจ๊นั่นแหละ...
ฉันหน้าตาออกจะหล่อ มาเรียกอาเจ๊ ทำไม ทำไมไม่เรียกอาเฮียสุดหล่อ
ถ้าเรียกนะ เดี๋ยวจะแจกเอให้แบบไม่ต้องคิดเลย
“เอาล่ะ...วันนี้เราจะมาเรียน...”
อาจารย์หนุ่มพูดหลังจากที่ไปยืนประจำที่แล้วเรียบร้อย ดวงตาคู่สวยกวาดไปรอบๆห้อง
ก่อนที่จะหลุดโวยวายออกมา “ไอ้..........................นะ...นะ.....นะ...นายมาอยู่นี่ได้ยังไงน่ะ
โว้ยยยยยยยยย ฟหกด่าสางวสงวเนยาวสาวสาว”
และอื่นๆอีกมากมาย เพราะคนที่อี้เฟิงไปสังเกตเห็นดันไม่ใช่คนอื่นคนไกล..
แต่เป็นคนที่เพิ่งขโมยจูบเขาไปเมื่อเช้าอย่างหยางหยางน่ะสิ!!
-------------------------------2BC-------------------------------------------
เอาแล้วววว บังเอิ๊ญญญญ อะไรขนาดนี้คะเนี่ยยยย เจ้าบ่าวมาอยู่นคาบสอนของเจ้าสาว(?)คงเฮฮาพิลึก ว่าแต่ เฟิงหลุดโวยวายในคลาสเรียนเหรออ //นึกภาพ+กลั้นขำสุดฤทธิ์
ตอบลบอาจารย์อี้เฟิงนี่ขี้โวยวายสุดๆเลย 555
ตอบลบโวยวายกลบเกลื่อนรึเปล่า ที่จริงเขินอ่าดิ๊
อย่างนี้ต้องรีบทำให้พี่อี้เฟิงชินไวๆนะคุณชายหยางหยาง 😜